นายอเส สุขยางค์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สมาคมสถาปนิกสยามฯ พร้อมด้วย ทีทีเอฟ ประกาศเดินหน้าจัดงานสถาปนิก’68 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยการจัดงานสถาปนิกถือเป็นงานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานทางวิชาชีพสถาปัตยกรรมและกิจกรรมของสมาคมฯ รวมถึงเป็นสื่อกลางในการจัดแสดงการออกแบบ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับงานสถาปัตยกรรม ตลอดจนส่งเสริมวิชาชีพทางสถาปัตยกรรมแก่สมาชิก นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป
นับเป็นการต่อยอดการจัดงานสถาปนิกครั้งที่ผ่านมา ที่นำเสนอนิทรรศการเนื่องในโอกาสครบรอบ 90 ปี สมาคมฯ มาพร้อมกับแนวคิด “ทบทวน ทิศทาง: Past Present Perfect” จึงนับเป็นโอกาสดีที่จะได้ใช้ช่วงเวลานี้ในการระลึกถึงการเดินทางของสถาปัตยกรรมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่าเดินทางผ่านเรื่องราวและส่งต่อมายังปัจจุบันได้อย่างไร
“ที่ผ่านมาสถาปนิกได้ร่วมงานกับหลากหลายวิชาชีพ จากทั่วทุกภูมิภาค เราจะได้สำรวจและทบทวนถึงทิศทางที่สถาปัตยกรรมไทยได้ก้าวเดินผ่านมาหลายยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานเทคนิคและวัฒนธรรมจากอดีต การปรับตัวตามสภาพแวดล้อมและความต้องการของสังคมในแต่ละยุค รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เคยเป็นและสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันว่าเรามีเส้นทางและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับผู้คนและตัวตนของสถาปนิกอย่างไรเพื่อมองอนาคตไปด้วยกัน”
นายอเส กล่าวว่า การจัดงานสถาปนิก’68 นอกจากวัตถุประสงค์ของการเป็นพื้นที่เชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกในแวดวงสถาปัตยกรรม ผ่านงานแสดงนิทรรศการ การประชุมสัมมนา การเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ซึ่งมีบทบาทส่งเสริมวิชาชีพสถาปัตยกรรม การพัฒนาองค์ความรู้ด้านสถาปัตยกรรม มีส่วนสำคัญต่อคุณภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม ยังสามารถสะท้อนศิลปวัฒนธรรมและมีส่วนผลักดันเศรษฐกิจของประเทศได้
รวมทั้งเป็นสื่อกลางในการจัดแสดงงานออกแบบ วัสดุก่อสร้าง ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เทคโนโลยี นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับวงการสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ รวบรวมผู้ประกอบการแบรนด์ชั้นนำของไทยและต่างประเทศกว่า 1,000 ราย มาจัดแสดงบนพื้นที่เดียวกันที่ใหญ่มากถึง 75,000 ตร.ม. และจากความน่าสนใจของการจัดแสดงนิทรรศการ กิจกรรมเสวนาให้ความรู้ ตลอดจนสินค้าบริการที่ครบวงจร คาดว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 325,000 คน
ด้าน นายธันว์ ศรีจันทร์ ประธานจัดงานสถาปนิก’68 กล่าวว่า ภาพรวมกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นภายในงานสถาปนิก’68 แบ่งเป็น 5 ส่วนสำคัญ ได้แก่ ส่วนนิทรรศการหลัก ส่วนนิทรรศการวิชาการ ส่วนนิทรรศการวิชาชีพ ส่วนพื้นที่กิจกรรมและบริการ และส่วนงานสัมมนาวิชาการ โดยส่วนนิทรรศการหลัก จะประกอบไปด้วย 7 โซนจัดแสดง
ในแต่ละโซนมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลาย อาทิ การเปิดให้คำแนะนำ คำปรึกษาด้านงานสถาปัตยกรรม การเปิดรับสมาชิก การให้ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัล และจุดจำหน่ายสินค้าของสมาคมฯ เป็นต้น
นายธันว์ กล่าวอีกว่า นอกจากนิทรรศการหลักจากทาง 4 องค์กรวิชาชีพสถาปนิก ได้แก่ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย, สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย, สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย ยังมีนิทรรศการวิชาการ ซึ่งเป็นนิทรรศการประกวดแบบเชิงแนวความคิด (ASA Experimental Design Competition) การแสดงผลงานการประกวดแบบในระดับนานาชาติที่เปิดให้สมาชิกสมาคมฯ สถาปนิก นิสิต นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมส่งผลงานแสดงแนวคิดในการออกแบบภายใต้ธีมงาน “FUTURE NOSTALGIA IN ARCHITECTURE”
สำหรับนิทรรศการวิชาชีพ ประกอบด้วย นิทรรศการอาษาอนุรักษ์ นำเสนอผลงานที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2568 นิทรรศการผลงานนักศึกษาโดยสถาบันการศึกษา โครงการประกวดวิทยานิพนธ์ทางสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2568 (TOY ARCH) นิทรรศการงานประกวดแบบภาครัฐและองค์กรอื่นๆ นำเสนอผลงานออกแบบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมและเมือง เป็นต้น
ในส่วนงานพื้นที่กิจกรรมและบริการ จะประกอบด้วย ACT+ASA Shop พื้นที่จำหน่ายหนังสือและของที่ระลึกสมาคม ACT+ASA Club พื้นที่พบปะ จุดพักผ่อนประจำของชาวอาษา มุมสถาปนิกอาสา พื้นที่บริการให้คำปรึกษา เรื่อง แบบบ้าน จากสถาปนิกอาสา และ ASA Night ในรูปแบบใหม่ กิจกรรมสังสรรค์พบปะตามประเพณีของเหล่าสมาชิกอาษาทุกรุ่น ทุกสมัย ทุกสถาบัน
ขณะที่งานสัมมนา วิชาการ ประกอบด้วย ASA Forum & Professional Seminar ซึ่งในครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนความรู้จากรุ่นสู่รุ่น โดยแบ่งเป็นส่วน International Forum 3 Gen ซึ่งจะเป็นงานบรรยายของสถาปนิกต่างชาติที่มีภูมิหลังและผลงานที่แสดงลักษณะของแต่ละยุคอย่างชัดเจน ขณะที่งานสัมมนา Professional Seminar จะเป็นงานที่เชิญผู้เชี่ยวชาญในไทยของแต่ละสาขาวิชาที่มีประโยชน์แก่การประกอบวิชาชีพของสถาปนิกในปัจจุบัน และงานครั้งนี้จะมีความพิเศษ สำหรับกิจกรรมสัมมนาที่มาในรูปแบบการทำ Workshop หรือสอนการใช้งานโปรแกรม Computer สำหรับงานออกแบบต่างๆ ทางด้านสถาปัตยกรรม โดยเน้นให้ผู้เข้าฟังได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมและสามารถนำไปใช้ได้จริงด้วย
นายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า งาน “สถาปนิก’68” ถือว่าเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา แม้จะมีความท้าทายที่เกิดขึ้นในภาคธุรกิจและเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน ฉะนั้น ในปี 2568 จึงมีเป้าหมายที่จะยกระดับการจัดงานให้มีศักยภาพมากกว่าเดิมในทุกมิติ ทั้งพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ยอดจองพื้นที่จัดแสดงสินค้า สะท้อนถึงการขยายตัวในภาคอุตสาหกรรมด้านก่อสร้างที่มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางบวก และจำนวนผู้แสดงสินค้า ณ ปัจจุบัน มีจำนวนผู้ประกอบการไทยเพิ่มขึ้น 6.35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการไทยที่มีต่องานสถาปนิก ขณะที่จำนวนผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศมีแนวโน้มลดลงจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก และนโยบายการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยของผู้จัดงาน โดยผู้แสดงสินค้าชั้นนำที่ยืนยันเข้าร่วมงานแล้ว อาทิ SCG, MAKITA, JORAKAY, TOSTEM, VG, TOA, กลุ่ม PANTAMITR, กลุ่ม CONNEXT, S-ONE, BOONTHAVORN, BLACK & DECKER, DOS, CRISTINA, EDL, TAK+WG เป็นต้น และมีผู้แสดงสินค้ารายใหม่ที่เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นหลายราย อาทิ NIPPON PAINT, FAMELINE, MELATONE, SAINT-GOBAIN, FELTECH, TOPMIX, M KUCHE, INOL GROUP เป็นต้น
ส่วนไฮไลท์ภายในงานนอกจากพื้นที่ของสมาคมฯ แล้ว ยังมีผู้แสดงสินค้าที่ใช้พื้นที่ Thematic Pavilion มากที่สุดตั้งแต่เคยจัดแสดงมา ถึง 6 พื้นที่ ได้แก่ 1. S-ONE ร่วมกับสถาปนิกจาก Looklen Architect 2. NIPPON PAINT ร่วมกับสถาปนิกจาก pbm 3. VANACHAI ร่วมกับสถาปนิกจาก FLAT12X 4. VG ร่วมกับสถาปนิกจาก ativich / studio 5. WOODDEN ร่วมกับสถาปนิกจาก POAR 6. FAMELINE ร่วมกับสถาปนิกจาก Architects & Associates และทางด้านผู้จัดงานยังมีการเปิดพื้นที่โซนใหม่ “Lobby Zone” เป็นครั้งเเรก เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้แสดงสินค้ามากขึ้น
ส่วนไฮไลท์ภายในงานนอกจากพื้นที่ของสมาคมฯ แล้ว ยังมีผู้แสดงสินค้าที่ใช้พื้นที่ Thematic Pavilion มากที่สุดตั้งแต่เคยจัดแสดงมา ถึง 6 พื้นที่ ได้แก่ 1. S-ONE ร่วมกับสถาปนิกจาก Looklen Architect 2. NIPPON PAINT ร่วมกับสถาปนิกจาก pbm 3. VANACHAI ร่วมกับสถาปนิกจาก FLAT12X 4. VG ร่วมกับสถาปนิกจาก ativich / studio 5. WOODDEN ร่วมกับสถาปนิกจาก POAR 6. FAMELINE ร่วมกับสถาปนิกจาก Architects & Associates และทางด้านผู้จัดงานยังมีการเปิดพื้นที่โซนใหม่ “Lobby Zone” เป็นครั้งเเรก เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้แสดงสินค้ามากขึ้น
นายศุภแมน กล่าวว่า จะมุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนของผู้ชมงานที่อยู่ในกลุ่ม Professional ให้มากยิ่งขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก (Professional) อาทิ สถาปนิก นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ วิศวกร และผู้รับเหมาก่อสร้าง ในงานสถาปนิกที่ผ่านมา มีสัดส่วนอยู่ที่ 55% ขณะที่กลุ่ม Home Owners-End Users อยู่ที่ 45% โดยประมาณการสัดส่วนในกลุ่มผู้ชมงาน Professional จะเติบโตขึ้นเป็น 60% ในงานสถาปนิก’68
“เรายังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำเสนองานที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม มุ่งเน้นไปที่การสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการได้เจอกลุ่มเป้าหมายหลักให้มากที่สุด เพื่อเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนเครือข่ายทางธุรกิจ พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างในภูมิภาคนี้”