ทีเส็บ บูมไมซ์รับเปิดประเทศ ปั้มรายได้ 2.8 หมื่นล้าน
ทีเส็บ เร่งบูมตลาดไมซ์รับเปิดประเทศ ผุดโครงการ Thailand MICE Back พลิกฟื้นความเชื่อมั่น ดึงงานระดับโลกเข้าไทย กระตุ้นเอกชนจัดงานโดเมสติกไมซ์ รับมติครม.ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 2 เท่าของที่จ่ายจริง ดันนักเดินทางไมซ์รวม 6.1 ล้านคน สร้างรายได้รวม 28,400 ล้านบาท
หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบของไทย ส่งผลให้อีเวนต์ต่างๆทยอยกลับมาจัดงานได้เต็มที่ ทำให้ทีเส็บเร่งกระตุ้นการจัดงานและการเดินทางของนักเดินทางไมซ์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่าการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในปีนี้ รองรับการเปิดประเทศ ทีเส็บได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อผลักดันเป้าหมายนักเดินทางไมซ์ทั้งในและต่างประเทศรวม 6,130,000 คน สร้างรายได้รวม 28,400 ล้านบาท โดยจะโฟกัสการดำเนินงานภายใต้ 4 แผนหลัก ตามกลยุทธ์ B-A-C-K ได้แก่
1.แผนการสร้างความเชื่อมั่น(กลยุทธ์ B: Build Confidences & Trust) โดยเร่งส่งเสริมการสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรมไมซ์ในด้านต่างๆ เจาะกลุ่มผู้ประกอบการไมซ์ ทั้งสถานที่จัดงานและผู้จัดงาน การพัฒนาด้านการใช้นวัตกรรมส่งเสริมธุรกิจไมซ์ การพัฒนาบุคคลากรด้านไมซ์ ซึ่งทีเส็บมีเป้าหมายยกระดับองค์กรสู่การเป็นหน่วยงานรับรองมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพในระดับอาเซียนด้วย
2. แผนกระตุ้นการจัดงานไมซ์ในประเทศ (กลยุทธ์ A: Accelerate Dream MICE Activity) ทีเส็บเร่งกระตุ้นให้เกิดการจัดงานไมซ์ในประเทศอย่างต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้าย ด้วยการสนับสนุนผ่านแพ็กเกจกระตุ้นการจัดงานไมซ์ทุกประเภท รองรับมติครม.ที่เห็นชอบมาตรการทางภาษีในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 2 เท่าของที่จ่ายจริง ซึ่งบริษัทสามารถนำค่าใช้จ่ายจริงในการจัดอบรมสัมมนาและการจัดนิทรรศการงานแสดงสินค้าภายในประเทศไปลดหย่อนภาษีได้ โดยบริษัทต้องมีการจ่ายจริงตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
3. แผนส่งเสริมภาพลักษณ์และการสื่อสารอุตสาหกรรมไมซ์ (กลยุทธ์ C: Communication and Inspire the World) สร้างการรับรู้อุตสาหกรรมไมซ์ผ่านแบรนด์ “THAILAND MICE” ทั้งการสื่อสารในและต่างประเทศ มุ่งเจาะตลาดจังหวัด 10 เมืองไมซ์ และภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ไมซ์ไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก สอดรับกับแผนประชาสัมพันธ์แห่งชาติด้านต่างประเทศที่ขับเคลื่อนผ่านแนวคิด New Chapter of Thailand ก้าวใหม่ไทยในช่วงหลังโควิด
4. แผนการดึงงานระดับโลกและการเพิ่มจำนวนงานไมซ์ต่างประเทศ (กลยุทธ์ K: Kick off World Events Bidding) ประเทศไทยได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานระดับโลก เช่น งาน 62nd ICCA Congress (ICCA Congress 2023) การประชุมสมาคมการประชุมนานาชาติ ครั้งที่ 62 วันที่ 12 -15 พฤศจิกายน 2566
งาน Udon Thani International Horticultural Expo 2026 หรืองานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พ.ศ. 2569 วันที่ 1 พฤศจิกายน 2569-14 มีนาคม 2570 และงาน Thailand International Air Show ซึ่งมีกำหนดจัดงานประกาศตัวในปี 2566 โดยงานจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2568 และมีการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบในปี 2570
นอกจากนี้ ยังมีงานที่อยู่ในขั้นตอนการประมูลสิทธิ์ ได้แก่ งานเอ็กซ์โป 2028 ภูเก็ต ประเทศไทย วันที่ 20 มีนาคม-17 มิถุนายน 2571 และ งาน Nakhon Ratchasima International Horticultural Expo 2029 หรือ งานมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา พ.ศ. 2572 กำหนดจัดวันที่ 10 พฤศจิกายน 2572-28 กุมภาพันธ์ 2573
สำหรับไตรมาสสุดท้ายปีงบประมาณ 2565 ยังมีงาน Maintenance, Industrial Automation, and Robotics (MiRA) และ SUBCON EEC 2022 งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม โซลูชันอุตสาหกรรมการผลิตชั้นสูงด้านการบำรุงรักษา เทคโนโลยีหุ่นยนต์ และงานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมแห่งภาคตะวันออก วันที่ 24-26 สิงหาคม 2565 พัทยา, งาน Defense & Security 2022 งานแสดงเทคโนโลยียุทโธปกรณ์ 3 เหล่าทัพและเทคโนโลยีทางด้านการรักษาความปลอดภัย วันที่ 29 สิงหาคม-1 กันยายน 2565 กรุงเทพฯ
งาน Health Living and Innovation Expo 2022 งานแสดงสินค้า บริการ และนวัตกรรมเพื่อผู้รักสุขภาพ วันที่ 8-11 กันยายน 2565 สงขลา และงาน Korat FooDEx โคราชฟู้ดเด๊กซ์ ทีเด็ดอาหารทั่วไทย วันที่ 14-18 กันยายน 2565 นครราชสีมา
ช่วงไตรมาส 1-3 (ตุลาคม 2564-มิถุนายน 2565) มีนักเดินทางไมซ์ในและต่างประเทศรวม 3,446,102 คน สร้างรายได้ 16,344 ล้านบาท ทีเส็บคาดการณ์ภายในปีงบประมาณ 2565 จะมีจำนวนนักเดินทางไมซ์ทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 6,130,000 คน คิดเป็นรายได้ 28,400 ล้านบาท