วันนี้(วันที่ 14 ธันวาคม 2565) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวในงานสัมมนา
GO THAILAND : ธุรกิจไทยต้องไปต่อ ซึ่งจัดโดย "ฐานเศรษฐกิจ" โดยระบุว่าตั้งแต่วันที่ 1ม.ค.-12 ธ.ค.2565 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10.3 ล้านคนแล้ว
ทะลุเป้าหมาย 10 ล้านคนที่วางไว้ ซึ่งหากมีการเดินทางเข้าไทยทั้งผ่านด่านทางบกและอากาศเฉลี่ยวันละ 7-8 หมื่นคนเช่นนี้ ก็มีแนวโน้มว่าตลอดทั้งปีนี้ไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปิดอยู่ที่ 11.5 ล้านคน
ขณะที่ในส่วนการเดินทางเที่ยวในประเทศของคนไทยในปีนี้ ณ วันที่ 12 ธ.ค.65 มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยอยู่ที่ 175 ล้านคน-ครั้ง จากอนิสงค์เราเที่ยวด้วยกัน เมื่อรวมรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งตลาดต่างชาติและไทยเที่ยวไทยตลอดทั้งปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 1.28 ล้านล้านบาท
ส่วนในปี2566 รัฐบาลตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวกลับคืนมา80% ของช่วงก่อนโควิด ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับคืนมา50%
นั่นคือไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 20ล้านคน ซึ่งยังไม่รวมนักท่องเที่ยวจีน และคนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ 180 ล้านคน-ครั้ง
ผมมั่นใจว่าจีนจะเปิดประเทศภายในไตรมาส1ปีหน้าเร็วกว่าที่คาดไว้ว่าต้องรอให้มีการประชุม 2 สภาของจีนก่อน โดยจะเป็นการเปิดแบบเป็นขั้นเป็นตอนในบางจังหวัด
จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะอนุญาตให้เดินทางไปได้ในบางประเทศ ซึ่งไทยน่าจะมีความหวัง เพราะไทย-จีนเป็นพี่น้องกัน และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด
นอกจากนี้ในปีหน้าก็มีปัจจัยบวกที่เรามอนิเตอร์อยู่ คือ เราเชื่อว่าคนอยากเที่ยว เพราะอั้นมานานกว่า 2-3 ปี คนก็อยากเที่ยวล้างแค้น และต่างชาติอย่างยุโรปก็หนีหนาวเข้ามา ส่วนปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังคือ เรื่องของเศรษฐกิจโลก และสงครามรัสเซีย-ยูเครน
"ผมมั่นใจท่องเที่ยวปี66 ก็จะกลับมาเป็นพระเอกกระตุ้นเศรษฐกิจ ผมมั่นใจว่าดีมานต์มา แต่เราสามารถพัฒนาโปรดักซ์ที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวหลังโควิดได้หรือไม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องการประสบการณ์ในการท่องเที่ยว
รวมถึงการดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ก็ต้องมีการพัฒนาโปรดักซ์มารองรับ ซึ่งเราอยากเห็นการพัฒนาในฝั่งซัพพลายไซด์ ที่ต้องเติบโตเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการพลิกฟื้นการท่องเที่ยว"
นายยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า เราอยากเห็นอีโค ซีสเต็ม ด้านการท่องเที่ยวที่พลิกโฉมไปสู่ นิว อีโค ซีสเต็ม ทำให้ฝั่งซัพพลายมีสินค้าที่มีคุณภาพ มีการใช้จ่ายสูง การพัฒนาโปรดักซ์และบริการเน้นการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ
ทำให้เกิดการพลิกโฉมการท่องเที่ยวที่เป็น นิว แชปเตอร์ ใหม่ ไม่ใช่การฟื้นท่องเที่ยวแล้วกลับมาเป็นรูปแบบเดิมที่เป็น mass tourism มีปัญหาขยะ และสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ให้ทำให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน