นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เผยว่าหลังจากรัฐบาลออกนโยบายปรับเปลี่ยนมาตรการใหม่ผู้เดินทางเข้าประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2566 ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทนำเที่ยวต่างๆในต่างประเทศ และรู้สึกไม่พอใจ
เนื่องจากเป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายกะทันหัน และส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เพราะมีการยกเลิกการจอง จากนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มตามที่รัฐบาลกำหนด
"ผมมองว่าการเดินหน้าแล้วถอยหลัง แต่หวังจะได้จีนกลับมา นโยบายกลัวๆกล้าๆเลยเสียลูกค้าทุกชาติถ้วนหน้ากัน"นายภูมิกิตติ์ กล่าว
ทั้งนี้ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตได้รับการติดต่อและประสานงานจากผู้ประกอบการนำเที่ยวซึ่งทุกบริษัทได้แสดงความเป็นกังวลอย่างสูงสุดต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของประเทศไทย
ดังนั้นสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตได้รวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นเพื่อนำส่งให้รัฐบาลใช้ในการประกอบการพิจารณาดังนี้
ความคิดเห็นจากบริษัทนำเที่ยวประเทศอังกฤษ
ความคิดเห็นจากบริษัทนำเที่ยวประเทศภาคพื้นสแกนดิเนเวีย
ความคิดเห็นจากบริษัทนำเที่ยวประเทศเยอรมันนี
ความคิดเห็นจากบริษัทนำเที่ยวประเทศฝรั่งเศส
ความคิดเห็นจากบริษัทนำเที่ยวประเทศรัสเซียและ CIS
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตมีความห่วงใยต่อสถานการณ์เป็นอย่างยิ่งเนื่องจากบริษัทนำ
เที่ยวต่างๆได้แสดงความไม่พอใจ และนักท่องเที่ยวจำนวนมากจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎการเดินทางในครั้งนี้
ขอความกรุณานายกรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการโดยด่วนที่สุดเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาและหาทางออกให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้การปรับเปลี่ยนนโยบายการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถบริหารจัดการทั้งการควบคุมการระบาด และกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว
โดยล่าสุดท่องเที่ยวภูเก็ต พังงา กระบี่ ได้ทำหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอยกเว้นการตรวจการฉีดวัคซีน 2 เข็มนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทุกคน ขอเสนอให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนนโยบายจำกัดการบังคับวัคซีน 2 เข็มเฉพาะกับผู้เดินทางจากประเทศที่มีมาตรการบังคับทำ RT-PCR ก่อนกลับเข้าประเทศเท่านั้น เนื่องจากหวั่นกระทบท่องเที่ยว