กทม. พร้อมรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ เข้มมาตรการสกัดโควิด

25 ม.ค. 2566 | 09:25 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ม.ค. 2566 | 09:29 น.

กทม.ประกาศพร้อมรับคลื่นนักท่องเที่ยวเข้าไทย 1 ก.พ.นี้ ย้ำ สถานประกอบการ โรงแรม ร้านอาหาร ปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA และ SHA Plus อย่างเคร่งครัดสกัดโควิด

25 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพกรุงเทพมหานคร (ศฉส.กทม.) ครั้งที่ 2/2566 ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานและหารือแนวทางป้องกันโรค รวมถึงสร้างเสริมสุขภาพให้ประชาชน

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จะมีนักท่องเที่ยวชาติชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย และจะมีจำนวนมากขึ้นจึงต้องติดตามสถานการณ์โควิด และเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขรองรับการดูแลสุขภาพนักท่องเที่ยว

รวมถึงเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มข้นต่อเนื่องซึ่งสำนักอนามัยได้ประสานให้สำนักงานเขตกวดขันสถานประกอบการให้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการดำเนินการจัดให้พนักงานได้รับวัคซีนป้องกันโควิดให้ครบ 4 เข็ม

รวมถึงประสานกับสถานประกอบการในพื้นที่ในการสุ่มตรวจ ATK พนักงานที่ให้บริการในสถานประกอบกิจการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการที่ให้บริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) อย่างเคร่งครัด

สำหรับสถานการณ์โรคโควิดทั่วโลกมีแนวโน้มพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตคงตัวทั้งในประเทศแถบเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ขณะที่ประเทศจีนมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นในหลายเมือง

ส่วนสถานการณ์โรคโควิดในประเทศไทยนั้น มีแนวโน้มพบผู้ป่วยอาการหนักและผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี จากการคาดการณ์ว่าจะมีผู้เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นมาตรการป้องกันการป่วยรุนแรงด้วยวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับกลุ่ม 608 และลดการแพร่โรคด้วยมาตรการป้องกันส่วนบุคคล และการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้ให้บริการภาคการท่องเที่ยวและคมนาคม 

รวมทั้งเน้นเฝ้าระวังโรคในสถานพยาบาล สถานที่เสี่ยง แหล่งท่องเที่ยว ท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง เน้นการสื่อสาร แนะนำแนวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เบื้องต้นให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคลอย่างเข้มงวด อาทิ การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท ล้างมือบ่อยๆ ตรวจหาเชื้อโควิดหากมีอาการทางเดินหายใจ

เน้นให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ครบ 4 เข็ม และฉีดเข็มกระตุ้นเมื่อฉีดเข็มสุดท้ายมากกว่า 4 เดือน เนื่องจากผู้เสียชีวิตจากโควิดที่พบส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่เคยรับการฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนยังไม่ครบ 4 เข็ม

นอกจากนี้ให้เน้นย้ำกับสถานประกอบการ ร้านอาหาร สนามมวย สนามกีฬา ตลาด วัด และสถานที่ต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไป ให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID-FREE Setting ส่วนโรงแรม ร้านอาหารต่างๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA และ SHA Plus อย่างเคร่งครัด