บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เผยแผนการลงทุน 1,000 ล้านบาท เดินหน้าเปิดตัวแนวคิด “Co-Living Collective: Empower Future” ณ อาคาร ‘เอ็มไพร์ ทาวเวอร์’ ยกระดับอาคารให้เป็น ไลฟ์สไตล์สเปซ แห่งใหม่ รองรับเทรนด์อนาคตในการผสมผสานการทำงานและการใช้ชีวิตเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ สร้างมาตรฐานใหม่ และส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายขององค์กรและพนักงานจากทั่วโลก
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ปัจจุบัน คนทำงานรุ่นใหม่ต้องการแสวงหาคุณค่าในการใช้ชีวิตและจุดมุ่งหมายในการทำงานมากขึ้น ทั้งยังพยายามสร้างจุดสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อนเหมือนอยู่ที่บ้าน
บทบาทของสถานที่ทำงานจึงต้องสามารถรองรับความต้องการในมุมที่หลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ให้คนทำงานได้มีการพบปะปฏิสัมพันธ์ เอื้อต่อการทำงานร่วมกัน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ตลอดจนเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน รวมทั้งรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ
ในฐานะอาคารสำนักงานแนวไลฟ์สไตล์แฟล็กชิพของ AWC ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ มีมูลค่าอาคาร 20,000 ล้านบาท และเตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างสรรค์แนวคิด “Co-Living Collective: Empower Future” ที่เชื่อมโยงทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน มุ่งส่งสริมให้ผู้คนสามารถผสมผสานการทำงานและการใช้ชีวิตเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว และสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
"เอ็มไพร์โฉมใหม่จะสร้างนิยามใหม่ของอาคารสำนักงานและศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่ล้ำสมัยด้วย Co-Living Space มีพื้นที่รวมกว่า 1,500 ตร.ม. สร้างประสบการณ์ในการทำงานให้เหมือนอยู่บ้าน"
ซีอีโอของ AWC เปิดเผยว่า นอกจากจะเป็นโครงการแรก ที่นำแนวคิด Co-Living Space มาใช้กับอาคารสำนักงานแล้ว ยังจะเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วย ที่ส่งเสริมให้ผู้คนยุคปัจจุบันก้าวสู่อีกขั้นของความสำเร็จทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิต
ภายใต้แนวคิด “Co-Living Collective: Empower Future” เอ็มไพร์เตรียมพื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตรบนชั้น 53 สร้าง The Residence at Empire Co-living เป็นพื้นที่ทำงานซึ่งเป็นบริการพิเศษสำหรับผู้เช่า มีการออกแบบตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้มีบรรยากาศเหมือนบ้านที่อบอุ่นและผ่อนคลาย ด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น บรรยากาศของห้องรับแขก ครัวส่วนกลางแบบเปิด พร้อมพื้นที่รับประทานอาหาร รวมทั้งห้องสำหรับเด็ก และพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง ห้องเปลี่ยนผ้าอ้อม
สำหรับโซนพื้นที่ทำงานร่วมกัน ประกอบด้วยพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ทำงานส่วนตัว พื้นที่สำหรับสนทนากลุ่มและประชุม รวมทั้งโซนเพื่อการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ประกอบด้วย Nap Lounge สำหรับการพักผ่อนเติมพลัง ห้องอาบน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า นอกจากนั้น ยังมี Swing Floor พื้นที่ทำงานชั่วคราวสำหรับผู้เช่าระหว่างการออกแบบตกแต่งสำนักงานด้วย
ภายในปี 2566 นี้ เอ็มไพร์ฯ ยังเตรียมเปิดตัว EA Rooftop สเปซแห่งอาหารเหนือระดับ บนชั้นดาดฟ้าแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว่า 8,460 ตารางเมตร บนชั้น 55 - 58 รวบรวมประสบการณ์การรับประทานอาหารเหนือระดับจากหลายหลายแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยชูแนวคิดการออกแบบ “EA” (เอ-ยา) ที่แปลว่า “เสรีภาพ อากาศ การเฉลิมฉลอง” เพื่อมอบประสบการณ์ชวนดื่มด่ำจากแบรนด์ภัตตาคารและร้านอาหารชื่อดังระดับโลกซึ่งหาไม่ได้จากที่อื่นในกรุงเทพฯ นำโดยภัตตาคารโนบุ
อีกองค์ประกอบสำคัญที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ คือบริการจากโรงแรมในเครือ AWC ผ่าน แอพพลิเคชั่น AWC Infinite Lifestyle (AWI) สำหรับผู้เช่าสำนักงานเพื่อเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้ง Business Center, Club Lounge และส่วนลดพิเศษของบริการต่างๆ จากโรงแรมในเครือ AWC ทั้งหมด
และเพื่อเป็นการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน บริษัทอยู่ระหว่างการขอรับรองมาตรฐาน LEED ซึ่งเป็นมาตรฐานอาคารเขียวที่ยั่งยืน และมาตรฐาน WELL เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคารและผู้มาเยือน
ผู้บริหารของ AWC กล่าวสรุปว่า เอ็มไพร์โฉมใหม่จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น "จุดหมายปลายทางระดับโลก" สำหรับองค์กรและคนทำงาน และเมื่อองค์ประกอบใหม่ ๆ เหล่านี้เปิดตัวครบแล้ว เอ็มไพร์จะกลายเป็นจุดหมายอันดับหนึ่งในใจของคนทำงานรุ่นใหม่ เป็นสถานที่รวมตัวพบปะขององค์กรและพนักงานผู้เช่าเพื่อสร้างพลังและคุณค่าร่วมกัน