ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.2566 ที่สายการบินนกแอร์ นำผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ บินมาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 738 -800 จำนวน 189 ที่นั่ง นับเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ที่มีเครื่องบินโบอิ้งลำแรกมาลงสนามบินแห่งนี้ หลังจากได้ลงทุนปรับปรุงรันเวย์ จากเดิม 1,500 เมตร ขยายเพิ่มเป็น 2,100 เมตร
รันเวย์ที่ขยายเพิ่มขึ้นนี้ ช่วยรองรับการเดินทางของชาวแม่สอด นักธุรกิจ ให้เดินทางสู่แม่สอดได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยว และรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น ในเทศกาลวันมาฆบูชา ที่เป็นวันหยุดยาว และเทศกาลสงกรานต์ โดยมีกำหนดบินวันละ 2 เที่ยวบิน ให้บริการช่วงเช้าและเย็นหรือ 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยสายการบินนกแอร์ ได้เริ่มให้บริการเครื่องบินแบบ B737-800 จำนวน 189 ที่นั่งตั้งแต่ วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ถือฤกษ์งามยามดีวันแห่งความรัก เป็นต้น
นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย( ททท.) สำนักงานตาก กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดตาก ประกอบกับ ททท. สำนักงานตาก ร่วมกับพันธมิตรกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวโดยสายการบินนกแอร์ในวันธรรมดาเพิ่มมากขึ้น จึงมีกิจกรรม บินปุ๊บ พักปั๊บ รับครกไปเลย"
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในพิ้นที่ของอำเภอแม่สอด แสดงบัตรขึ้นเครื่องสายการบิน nokair และใบเสร็จรับเงินค่าที่พัก สามารถรับครกหินแกรนิต ซึ่งเป็นสินค้า GI ของจังหวัดตาก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.- 31 มี.ค. 2566 สำหรับผู้เข้าพักโรงแรม The Teak Maesot โรงแรมมอนเต้แม่สอด และโรงแรมเซนทรา บายเซ็นทารา แม่สอด ครกหินเรามีจำนวนจำกัด #ตากวันธรรมดาเที่ยวได้ไม่ธรรมดา #ททท. สำนักงานตาก #เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เส้นทางดอนเมือง-แม่สอดดังกล่าว มีส่วนราชการ ภาคธุรกิจ เอกชน พ่อค้าประชาชน เดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก อาทิ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ผู้บริหารสายการบินนกแอร์ ส่วนราชการจังหวัดตาก ภาคเอกชนจังหวัดตาก ปกครองอำเภอแม่สอด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก
ด่านศุลกากรแม่สอด ด่านควบคุมโรคติดต่อแม่สอด ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตาก หอการค้าจังหวัดตาก สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตาก และสื่อมวลชน โดยมีการจัดกิจกรรมการ ต้อนรับและแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ณ .ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก
ทั้งนี้ หลังขยายรันเวย์ให้รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้การเดินทางสู่อ.แม่สอด ซึ่งเป็นประตูการค้าทางบกด้านตะวันตกที่สำคัญของประเทศ มีมูลค่าการค้าชายแดนแต่ละปีกว่า 1.3 แสนล้านบาท และเป็นด่านพรมแดนเพื่อการสัญจรไปมาของชาวไทย ชาวเมียนมา และคนชาติต่าง ๆ จะมีความสะดวกรวดเร็ว ส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่เพิ่มขึ้นตามมา