การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล สงกรานต์ 2566 นี้ ถือว่าคึกคักที่สุดในรอบ 3 ปี โดยบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการสนามบินรวม 6 แห่งของทอท. กว่า 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 137.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าสงกรานต์นี้ จะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 18,530 ล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วง สงกรานต์ 2566 ถือว่าคึกคักมากที่สุดในรอบ 3 ปี ททท.คาดว่าสถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ จะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว รวม 18,530 ล้านบาท
โดยการเดินทางเที่ยวในประเทศของคนไทย หากเทียบกับปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโควิด ถือว่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือว่าฟื้นตัวกลับมา 60% ของช่วงสงกรานต์ปี 2562
ททท.ประเมินว่าในช่วงวันที่ 13-16 เม.ย.นี้ คนไทยจะเดินทางเที่ยวในประเทศกว่า 3.8 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 13,500 ล้านบาท เนื่องจากคนอัดอั้นไม่ได้ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์มากว่า 3 ปี ประกอบกับททท.และเอกชน พร้อมใจจัดกิจกรรมและเทศกาลสงกรานต์กันอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองท่องเที่ยวรอง
สอดคล้องกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)ที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการช่วงสงกรานต์เพิ่มขึ้นจากเทศกาลปีใหม่ 2566 ราว 10% โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 6 หมื่นคน และใช้รถโดยสาร (รถ บขส.,รถร่วม,รถตู้) เฉลี่ยวันละ 4,500 เที่ยว
ทั้งจากข้อมูลของ Google Trends พบว่าจังหวัดท่องเที่ยว 5 อันดับแรกที่คนไทยค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์เป็นจังหวัดระยะใกล้ ได้แก่ นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา ระยอง สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ ขณะที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมสำหรับการเล่นสงกรานต์ กลับติดอยู่ในอันดับ 7 คาดว่าเป็นผลจาก PM 2.5
สำหรับอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในช่วงสงกรานต์ พบว่า ภาคใต้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงสุด อยู่ที่ 80% เนื่องจากฤดูร้อนคนนิยมเที่ยวทะเล และส่วนหนึ่งมาจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” ทำให้โรงแรมที่พักมีราคาที่นักท่องเที่ยวไทยเอื้อมถึง ส่วนภาคเหนือ กลับมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 60% ซึ่งคาดว่าเกิดจากปัญหา PM 2.5 ที่ปกคลุมหลายจังหวัดตอนบนในภาคเหนือ
ในส่วนการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย.นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 305,000 คน เพิ่มขึ้น 525% คิดเป็นสัดส่วน 58% ของจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 และสร้างรายได้ราว 5,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 630% คิดเป็นสัดส่วน 60% ของรายได้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562
ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะใกล้ จากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และภูมิภาคอาเซียน โดยตลาดที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้แก่ อินเดีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส และรัสเซีย
เนื่องจากมีการจองการเดินทางเข้าไทยล่วงหน้าเพิ่มสูงขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้าของเทศกาลสงกรานต์ ซึ่ง 5 อันดับของตลาดที่มียอดจองเข้าไทยมากที่สุด คือ สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และจีน
ภาพรวมของยอดจองบัตรโดยสารล่วงหน้าของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงสรานต์ปี 2566 (เฉพาะสายการบินปกติ ไม่รวมการเดินทางโดยโลว์คอสต์ แอร์ไลน์ส และเช่าเหมาลำ) ถือว่าฟื้นตัวกลับมาราว 46% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของปี 2562 รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย และลาว ที่เดินทางข้ามแดนเข้ามาท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์คึกคัก ในพื้นที่จังหวัดชายแดน อาทิ งานหาดใหญ่ มิดไนท์ สงกรานต์ ,งานอุดร สงกรานต์ เฟสติวัล
ทั้งนี้ปัจจัยที่สนับสนุนการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในช่วงสงกรานต์ปีนี้ จาก 3 ปัจจัย ได้แก่
1.เที่ยวบินใหม่ช่วงสงกรานต์ โดยเที่ยวบินที่เริ่มทำการบิน ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.นี้ มีเที่ยวบินใหม่รวม 20 เที่ยวบิน หรือ 2,074 ที่นั่ง ส่วนใหญ่มาจาก จีน ไต้หวัน เวียดนาม และกัมพูชา รวมทั้งเที่ยวบินเช่าเหมาลำจาก รัสเซีย บินตรงเข้าภูเก็ต และอู่ตะเภา
2.การจัดกิจกรรมนานาชาติในช่วงสงกรานต์ ที่นอกจากรูปแบบการจัดเทศกาลสงกรานต์ตามประเพณีและวัฒนธรรมไทย ที่กระจายทั่วทุกพื้นที่ ยังเน้นการจัดงานตามแนวทาง “สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ร่วมสานใจ สู่สากล” เช่นการผนวกด้วยเทศกาลดนตรีแนว EDM (Electronic Dance Music) และแนวทาง Hip Hop จากศิลปินชื่อดังระดับนานาชาติ
3.ททท.สำนักงานต่างประเทศ จัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 อาทิ ททท.สำนักงานโฮจิมินห์ จัดกิจกรรม Laos Cross Border Promotion ไปยังอุดรธานี และหนองคาย
ททท.สำนักงานคุนหมิง ร่วมกับบริษัทนำเที่ยวพันธมิตร เสนอขายแพคเกจท่องเที่ยวแบบคาราวานมายังประเทศไทย ผ่านเข้ามาทางด่านชายแดนเชียงของ จ.เชียงราย ด่านท่าลี่ จ.เลย ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย และด่านบ่อเกลือ จ.น่าน
โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะใช้เวลาพำนักเฉลี่ยในไทยราว 3-4 วัน และมีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวัน ราว 5,380 บาท สูงกว่าปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาสินค้าในภาพรวมที่ปรับระดับราคาสูงขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อของไทย
การจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ มีทั้งส่วนที่ททท.จัดงานเอง ในพื้นที่กรุงเทพฯ,หาดใหญ่ (สงขลา),เชียงใหม่,สุโขทัย, พิษณุโลก,ปาย (แม่ฮ่องสอน) ซึ่งคาดว่าเฉพาะในพื้นที่ซึ่งททท.จัดงาน จะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่ราว 785,670 คน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 4,120 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ททท.และเอกชน พร้อมใจจัดงานมากมาย อาทิ ไอคอนสยาม มหัศจรรย์เจ้าพระยา มหาสงกรานต์ 2566, งานสงกรานต์ถนนข้าวสาร, สงกรานต์สยาม ผ้าขาวม้าปล่อยจอย รวมไปถึงกิจกรรมนานาชาติในช่วงสงกรานต์นี้ นายยุทธศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปีนี้จังหวัดเชียงใหม่กลับมาจัดงานประเพณีสงกรานต์หรืองาน “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง” อีกครั้ง โดยจัดเต็ม 9 วัน มีกิจกรรมมากมายหลากหลายน่าสนใจ โดยมียอดจองห้องพักของนักท่องเที่ยวแล้ว 78% และช่วงงานน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า ปีนี้มีกิจกรรม “น้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2566” จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่ง มาแจกจ่ายทั่วเมืองรวม 9 จุด 10,727 ขวด ส่วนปัญหา PM 2.5 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จองที่พักไว้แล้วยังไม่มีการยกเลิก ส่วนนักท่องเที่ยวไทย ส่วนใหญ่จะตัดสินใจสั้นลงไม่กี่วันก่อนเดินทาง
ขณะนี้อัตราการจองห้องพักราว 78% คาดน่าจะถึง 80% ในช่วงหยุดยาว 4 วัน ประมาณการณ์ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปที่ 6,000 กว่าบาท คาดจะมีนักท่องเที่ยวเข้าเชียงใหม่มากกว่า 116,159 คน คนไทยเกือบ 90,000 คน ที่เหลือก็จะเป็นต่างชาติ
อาทิ เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี ไต้หวัน และจีน ที่ตอนนี้ก็เปิดเส้นทางบินเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเมือง หรือจากทางยุโรป อเมริกา ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนด้านการท่องเที่ยวกว่า 1,192.98 ล้านบาท
คนไทยเฮโลเที่ยวต่างประเทศ
สำหรับการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศของคนไทยในช่วงสงกรานต์นี้ ก็ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายอมันพรีท บาจาท ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกง และไต้หวัน เผยว่า ในช่วงสงกรานต์นี้ กรุงเทพฯยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างชาติค้นหามากที่สุด ตามมาด้วย พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ และภูเก็ต
ทั้งยังพบว่าหยุดยาวสงกรานต์ปีนี้ คนไทยนิยมเดินทางและเข้าพักที่กรุงโซล เกาหลีใต้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 สอดคล้องกับข้อมูลของ Klook ที่คาดว่าคนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี โดบประเทศยอดฮิต คือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ยุโรป เกาหลีใต้
ดร. ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า “ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2566 จะมีการเดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยคาดการณ์ว่า จะมีเที่ยวบินรวม 14,180 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 2,026 เที่ยวบิน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 66”
ภาพรวมของอุตสาหกรรมการบินตั้งแต่ต้นปีเป็นไปในทิศทางที่ดี ปริมาณเที่ยวบินเฉลี่ย 2,000 เที่ยวบินต่อวัน ในขณะที่สงกรานต์ปีนี้จะมีเที่ยวบินเฉลี่ย 2,026 ต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเมื่อเปรียบเทียบเที่ยวบินในช่วงเวลาก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 บวท .ให้บริการจราจรทางอากาศรองรับเที่ยวบินถึง 3,000 เที่ยวบินต่อวัน