“สุดาวรรณ”เคลียร์ข้อกังวลปม “ฟรีวีซ่าจีน” เอื้อธุรกิจสีเทา

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  ชี้แจงต่อรัฐสภากรณีนโยบายฟรีวีซ่าว่าการฟรีวีซ่าจีน (นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยไม่ต้องขอวีซ่า) จะสร้างรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็ว ส่วนข้อกังวลเรื่องธุรกิจสีเทา เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านลบของประเทศ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด

ทั้งนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่จะมีการลงนามความร่วมมือแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างเป็นระบบ ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย และกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน โดยบริหารจัดการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ

ส่วนเรื่องการยกเว้นวีซ่า หรือ ฟรีวีซ่า ที่มีการพูดว่าจะทำให้คนไทยเสียโอกาสในการทำธุรกิจ ประเทศจะเต็มไปด้วยธุรกิจสีเทา มีคนไม่ดีเข้ามาแย่งงาน ขอแบ่ง ดังนี้

1.เรื่องธุรกิจสีเทาและธุรกิจที่ผิดกฏหมายทุกประเภท เป็นเรื่องที่ต้องมีการบังคับการใช้กฏหมายอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นความผิดที่เกิดจากประเภทใดก็ตาม

2.จำนวนนักท่องเที่ยวจีนกว่า 2.23 ล้านคนที่เข้ามาตั้งแต่ต้นปีนี้ สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท เราไม่ควรเหมาว่าทั้งหมดเข้ามาทำธุรกิจแย่งคนไทยหรือทำธุรกิจผิดกฏหมายไปเสียทั้งหมด

แต่หากว่าเราพบว่ามีการกระทำ เราจะใช้กฏหมายในการดำเนินการอย่างเด็ดขาด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการที่นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น จะสามารถเพิ่มโอกาสอีกหลายประการให้กับเมืองไทย รวมถึงเมืองรองอื่นๆที่จะเติบโตไปด้วยกัน โอกาสที่เศรษฐกิจและการเงินจะเคลื่อนที่เร็วที่สุด มาจากภาคอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยว

กรณีที่มีคนไม่ดีเข้ามาในรูปแบบของนักท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้มีมาตรการกวดขัน ปราบปรามและตรวจตรานักท่องเที่ยวที่ไม่ดี โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้าการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่  การจัดให้มีศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง และจัดให้มีแอพพลิเคชั่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวดาวน์โหลดเพื่อขอความช่วยเหลือ  แจ้งข้อมูลให้กับตำรวจท่องเที่ยว ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน จึงทำให้การช่วยเหลือการจับกุม การตรวจตรา และการป้องกันปราบปรามนักท่องเที่ยวมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ในส่วนเรื่องปัญหา PM 2.5  ที่จ.เชียงใหม่ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากหลากหลายปัจจัย  ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เรื่องนี้อยู่ในแผนงานของท่านนายกฯที่ได้แถลงไปแล้ว ว่าจะต้องดำเนินการแก้ไข การนำเรื่อง PM 2.5 เข้ามาเป็นประเด็น คิดว่าจะส่งผลให้เราเสียโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ และมิติอื่นๆที่เป็นจุดแข็งของจ.เชียงใหม่

สำหรับเรื่องรายได้จากนักท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท เราหมายถึงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น ซึ่งเพิ่มจาก 1.9 ล้านล้านบาทในปี 2562 ที่เป็นจุดพีคของเราก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงโควิด  ปัญหาต่างๆทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไม่ได้นิ่งนอนใจและจะทำงานเชิงรุก บูรณาการการทำงานกับทุกกระทรวง ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อย่างใกล้ชิด เพื่อไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านการท่องเที่ยว นำมาซึ่งความยั่งยืนทั้งในเชิงคุณภาพและเศรษฐกิจ