สืบเนื่องจากการประกาศกฎกระทรวงโรงแรมใหม่ ฉบับปี พ.ศ. 2566 จำนวน 3 ฉบับ โดยกระทรวงมหาดไทย และได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากสมาคมที่พักบูติกภูเก็ต ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ยื่นเรื่องเพื่อขอผ่อนปรนข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขอใบอนุญาตโรงแรมมาต่อเนื่องกว่า 5 ปี เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
สมาคมที่พักบูติกภูเก็ต ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต จึงจัดสัมมนาเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อให้ความรู้ข้อกฎหมาย และการขอตรวจรับใบอนุญาตโรงแรม หวังให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กสามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้
นายชินวัฒน์ อุดมนิยม นายกสมาคมที่พักบูติกภูเก็ต เปิดเผยว่า การจัดสัมมนาร่วมกับจังหวัดภูเก็ต จะสามารถแก้ไขปัญหา โรงแรมขนาดเล็กที่อยู่นอกระบบ ซึ่งเดิมมีจำนวนมากกว่า 80% ของโรงแรมทั้งหมดที่เปิดกิจการอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ให้เข้าสู่ระบบได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนโรงแรมอย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ได้รับความร่วมมือจากธนาคารภายใต้การดูแลของรัฐ อาทิเช่น SME bank ที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการเงิน ช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางเล็ก และเงินกู้ต่างๆ ที่จะสามารถยื่นขอปรับปรุงกิจการ เพื่อกลับมาเปิดกิจการได้ หลังได้รับใบอนุญาตถูกต้องแล้ว จะส่งผลให้จังหวัดภูเก็ตเองมี Supply side ด้านที่พักเติบโตขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันในเดือนตุลาคมนี้
นายกสมาคมที่พักบูติกภูเก็ต ได้สะท้อนปัญหาเร่งด่วนของผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กในจังหวัดภูเก็ต ในฐานะที่เป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เป็นเวลาที่ยาวนานอย่างต่อเนื่องกว่า 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยได้รับมาตรการช่วยเหลือ ใดๆ จากภาครัฐและด้านการเงินจากสถาบันการเงินเลย
ทั้งนี้ โรงแรมขนาดเล็กในภูเก็ตประมาณ 2,000 ราย พบว่า ราว 60% ประสบปัญหาและยังต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาล ส่วนที่กลับมาเปิดกิจการได้มีแค่ 40% ซึ่งไม่เพียงพอต่อการต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ทันเป้าของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 28- 30 ล้านคน ในปี 2566 โดยข้อมูล ณ วันที่ 3 กันยายน 2566 มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศรวมกว่า 18.3 ล้านคน จึงขอให้ภาครัฐช่วยเหลือดังนี้
1. ปัญหาการเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือภาครัฐ
2. แก้ปัญหาที่ติดขัดด้านกฎหมายบางประการเช่นประกาศสิ่งแวดล้อม กฎหมายผัง ที่ยังไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวงให้ออกมารองรับการเข้าถึงเกณฑ์การยื่นขอใบอนุญาต การกลับมาของผู้ประกอบการโรงแรมที่พักขนาดเล็ก
3. ขอให้ตั้งกองทุนส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยช่วงที่ยังอ่อนแอ ให้สามารถกลับมาดำเนินกิจการได้ต่อไป
4. ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้โครงการโดยพักทรัพย์พักหนี้ที่กำลังจะหมดระยะเวลาอายุ ให้ยังคงมีสิทธิ์ในทรัพย์สิน มีวงเงินกู้ดอกเบี้ยตํ่าให้สามารถไถ่ถอน และสามารถประกอบกิจการได้ต่อไป
ด้านนางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และประธานสภาเขต 11 กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยรวมกว่า 25-30 ล้านคนในสิ้นปี 2566 นี้
หากตั้งสมมุติฐานว่า โรงแรมขนาดเล็กในจังหวัด ภูเก็ต มีโอกาสกลับมาเปิดกิจการหลังได้รับใบอนุญาต แล้วจะสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวรวมกว่า 1 หมื่นคนต่อวัน หรือ 2.19 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้เข้าจังหวัดภูเก็ตกว่า 16,202 ล้านบาทต่อปี
ขณะที่โรงแรมขนาดเล็กมีรายได้ค่าห้องพักจากนักท่องเที่ยวเพียง 10% อีก 90% เงินจะสะพัดหมุนเวียนไปที่ supply chain อื่นๆ ทั้งจังหวัดกว่า 2,500 แห่ง ซึ่งเป็นมูลค่ากว่า 14,585 ล้านบาทต่อปี เกิดการจ้างงานหมุนเวียนมากกว่า 25,000 คน ในภาพรวมทุกอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ที่ล้วนได้รับผลประโยชน์จากการปลดล็อคกฎหมายในครั้งนี้