ทายาทเจ้าสัวเจริญ เปิด 4 โรงแรมใหม่ปีหน้า มูลค่าการลงทุน 1 หมื่นล้าน

11 ต.ค. 2566 | 08:46 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ต.ค. 2566 | 16:18 น.

ทายาทเจ้าสัวเจริญ ยึดทำเล พัทยา หัวหิน กรุงเทพ เปิด 4 โรงแรมใหม่ ในเครือ AWC รวมกว่า 1,000 ห้อง มูลค่าการลงทุน 1 หมื่นล้านบาท ทั้งเผยนักท่องเที่ยวคุณภาพเที่ยวไทยขยายตัว ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของ AWC ในไตรมาส 4/66 จะเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นมา 4 ปี

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่าในปีหน้า AWC เตรียมจะเปิดโรงแรมใหม่ อีก 4 แห่ง ในพัทยา หัวหิน และกรุงเทพฯ รวมจำนวนห้องพักกว่า 1,000 ห้อง มูลค่าการลงทุนราว 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพที่เติบโตต่อเนื่อง

วัลลภา ไตรโสรัส

โรงแรมหรู 4 แห่งที่จะเปิดให้บริการในปีหน้า ประกอบไปด้วย

  • โรงแรมแมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา พัทยา ซึ่งได้รีแบรนด์มาจากโรงแรมซิกม่า พัทยา ที่ซื้อไว้เดิม
  •  โรงแรมในพัทยา อีกหนึ่งแห่งที่รีแบรนด์มาจากโรงแรมแกรนด์ โซเล่ พัทยา ที่ซื้อไว้เดิม ที่อยู่ระหว่างการหารือกับเชนอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทล หรือ IHG เพื่อสรุปการใช้แบรนด์โรงแรม
  • โรงแรมคิมป์ตัน หัวหิน ซึ่งเป็นการรีแบรนด์จากโรงแรมอิมพีเรียล หัวหินเดิม
  • โรงแรม แฟร์มอนท์ แบงคอก สุขุมวิท กรุงเทพฯภายใต้การบริหารของเชนแอคคอร์ (Accor) ซึ่งได้รีแบรนด์จากเดิมชื่อโรงแรม แกรนด์ เมอร์เคียว แบงค็อก วินด์เซอร์ ที่ AWC เข้าซื้อโรงแรมนี้เมื่อปลายปี 2565 มูลค่า 3,184 ล้านบาท และใช้งบลงทุนพัฒนาโครงการ อีก 2,121 ล้านบาท รวมเงินลงทุน 5,306 ล้านบาท และจะเป็นโรงแรมแบรนด์ “แฟร์มอนท์” (Fairmont) แห่งแรกในไทย เจาะตลาดไมซ์ (MICE : การประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า) ระดับลักชัวรี

จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของ AWC ในไตรมาส 4/66 จะเติบโตได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/66 เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน (ฤดูแห่งการขาย) สะท้อนจากยอดจองห้องพัก (Booking) อัตราการเข้าพัก (OCC) และรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPar) ซึ่งเติบโตสูงที่สุดนับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นมา 4 ปี

ธุรกิจโรงแรมของ AWC ที่ไปได้ดี เป็นเพราะเราจับกลุ่มนักท่องเที่ยวกระจายหลายประเทศ และเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ทำให้เรายังไม่กระทบมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักเราเป็นอเมริกา 14-15% และจีน 11% แม้จะลดลงจากเดิมที่เคยอยู่ที่ 16% แต่ยังมีเข้ามา ส่วนอิสราเอล ไม่ใช่ตลาดหล้กของ AWC 

ทั้งนี้สิ่งที่เห็นคือนักท่องเที่ยวจ่ายค่าห้องสูงขึ้น 15% สูงสุด 49% เทียบกับก่อนปี 2562 และพักยาวขึ้นด้วย ส่วนฟรีวีซ่าจีนกับคาซัคสถาน ยังไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เพราะการจองสายการบินต้องใช้เวลาเป็นปี ซึ่งไตรมาส4 เป็นไฮซีซั่น อัตราเข้าพักและค่าห้องจะสูงเท่าปี 2561-2562 และดีที่สุดในรอบ 4 ปีนับจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยปีนี้คาดว่ารายได้เราจะโตมากกว่าตัวเลข 2 หลัก

สำหรับสถานการณ์โรงแรมไตรมาส4ว่าแม้ยังมีความผันผวนจากสถานการณ์โลก เหตุกราดยิงที่สยามพารากอนล่าสุดเหตุความไม่สงบที่ประเทศอิสราเอล แต่อัตราเข้าพักของโรงแรมในเครือยังดีต่อเนื่อง ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงหรือผลกระทบที่เกิดขึ้น อาจจะมียกเลิกการเข้าพักโรงแรมย่านสาทรบ้างแต่เป็นกรุ๊ปเล็ก หลังเกิดเหตุการณ์ที่สยามพารากอน แต่ในขณะนี้ยอดการจองก็กลับมาเป็นปกติแล้ว

นางวัลลภา กล่าวว่า ทั้งนี้หากรัฐบาลจะมีการขยายประเทศให้วีซ่าฟรีนับเป็นเรื่องที่ดี เพราะอะไรที่ซัพพอร์ตการท่องเที่ยว ซึ่งบริษัทมีเครือข่ายอยู่หลายประเทศ ไม่อยากระบุว่าต้องเป็นประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ยังมีกลไกของระบบอุตสาหกรรมที่ต้องร่วมกันผลักดัน โดยเฉพาะสายการบินที่ยังเป็นปัจจัยใหญ่ ต้องสร้างความแข็งแกร่งของสายการบินและเที่ยวบินเข้ามามากขึ้นด้วย รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านต่างๆมากขึ้นก็ยิ่งดี เพราะแม้จะมีฟรีวีซ่า ยังต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่