"บั้งไฟพญานาค 2566" วันไหน กำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในช่วงออกพรรษา
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค 2566 พบว่า
ที่จังหวัดหนองคายจะมีการจัดงาน "ประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก" ในพื้นที่แต่ละอำเภอมีกิจกรรมที่หลากหลายที่เป็นอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี ของชาวจังหวัดหนองคายอย่างแท้จริง อาทิ พิธีรำบวงสรวงบูชาพญานาค ,ไหลเรือไฟบูชาพญานาค และการลอยกระทงกาบกล้วย
ซึ่งมีเพียงจังหวัดหนองคายเท่านั้นที่มีการลอยกระทง 2 ครั้ง ใน 1 ปี เพื่อสักการะบูชาแม่น้ำโขง และองค์พญานาคราชตามความเชื่อ
ส่วนไฮไลท์คือการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค โดยมีความเชื่อว่าเป็นการสักการะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มายังโลกมนุษย์ โดยในปีนี้ทางจังหวัดหนองคายได้จัดกิจกรรมพิธีรำบวงสรวงบูชาพญานาคราช
และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายทั้ง 6 อำเภอ ได่แก่อำเภอเมืองหนองคาย ,อำเภอโพนพิสัย ,อำเภอศรีเชียงใหม่ ,อำเภอสังคม ,อำเภอรัตนวาปี และอำเภอท่าบ่อ ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. - 6 พ.ย. 2566นี้
นายประทีบ อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย ระบุว่า วันออกพรรษาในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 29 ต.ค. 2566 ตามความเชื่อในใสมัยก่อนนั้นเชื่อว่าหากเดือนนี้มีเดือน 8 สองหน หรือเรียกว่าอธิกมาส จะเกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค จำนวน 2 วัน คือวันที่ 29 และ 30 ตุลาคม
โดยทางพื้นที่ในแต่ละอำเภอมีการกำหนดจุดพื้นที่และจำนวนผู้เข้าร่วมรับชมบั้งไฟพญานาคไว้อย่างชัดเจน ประกอบด้วย
“บั้งไฟพญานาค” เป็นปรากฏการณ์ของการเกิดลูกไฟสีแดงอมชมพูพวยพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง ซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงจังหวัดหนองคาย โดยจะเริ่มปรากฏจากเหนือผิวน้ำ แล้วจะพุ่งขึ้นสูงประมาณระดับ 50 – 150 เมตร เป็นเวลาประมาณ 5 -10 วินาที แล้วดับหายวับไปในอากาศและไม่มีลักษณะโค้งตกลงมาเหมือนดอกไม้ไฟ โดยลูกไฟไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง ขนาดของลูกไฟมีขนาดตั้งแต่เท่าหัวแม่มือ กระทั่งขนาดเท่าฟองไข่ไก่ จะเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่เวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินจนถึงประมาณ 23.00 น.
ตามพุทธประวัติกล่าวว่าเมื่อพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ พระองค์ได้เสด็จเผยแพร่ศาสนาไปทั่วชมพูทวีป พญานาคีบังเกิดความเลื่อมใสและศรัทธายิ่ง จึงจำแลงกายเป็นบุรุษขอบวชเป็นสาวก ค่ำคืนหนึ่งพญานาคีเผลอหลับใหลคืนร่างเดิม พระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องจึงขอให้ลาสิกขา เนื่องจากเป็นเดรัจฉานจะบวชเป็นภิกษุมิได้ พญานาคียอมตามคำขอ แต่ขอว่ากุลบุตรทั้งปวงที่จะบวชให้เรียกขานว่า “นาค” เพื่อเป็นศักดิ์ศรีของพญานาคก่อนค่อยเข้าโบสถ์
จากนั้นเป็นต้นมาจึงเรียกขานกุลบุตรทั้งหลายที่จะบวชว่า “พ่อนาค” ต่อมาเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าได้เสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเสด็จไปโปรดพุทธมารดาเป็นเวลา 3 เดือน เมื่อกลับสู่โลกมนุษย์ เหล่าบรรดาพญานาคี นาคเทวี พร้อมทั้งเหล่าบริวารจัดทำเครื่องบูชา และพ่นบั้งไฟถวาย ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “บั้งไฟพญานาค”