เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ผุดกิจกรรม“Jurassic @ night safari”คาดรายได้ 172 ล้าน

สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) กิจกรรมท่องโลกเสมือนจริง "Jurassic @ night safari"  เพื่อสร้างสีสันและกระตุ้นการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ช่วงไฮซีซั่น และรองรับนักท่องเที่ยวช่วงต้นปี 2567 

นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์  ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการสร้างสีสันบรรยากาศการท่องเที่ยวแห่งใหม่ ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาสัมผัส กิจกรรมท่องโลกเสมือนจริง"Jurassic @ night safari" เป็นกิจกรรมใหม่ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดทำขึ้น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมพร้อมการแสดงภาพใหม่ของโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน 

นางสาวฐิติรัตน์  กล่าวว่า กิจกรรม"Jurassic @ night safari"เป็นการใช้วัตถุทางกายภาพและดิจิทัลอยู่ร่วมกัน โต้ตอบกันแบบ Real Time ซึ่งจำลองบรรยากาศสิ่งแวดล้อมในยุค Jurassic รวมถึงไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่าง ๆ ในรูปแบบสามมิติ (3D) ทั้งหมดจะปรากฏขึ้นทั้งในรถบัสที่สร้างสภาพแวดล้อมเสมือนถิ่นที่อยู่อาศัยของไดโนเสาร์ ในยุค Jurassic ไม่น้อยกว่า 10 ชนิด, แว่น AR แว่น XR และแอปพลิเคชัน ที่สามารถมีส่วนร่วมได้ เช่น การมองเห็นสัตว์, ให้ไดโนเสาร์คำราม หรือให้อาหารไดโนเสาร์ อีกมากกว่า 15 ชนิด”

กิจกรรมฯจะให้บริการในช่วงกลางวัน เป็นเรื่องใหม่สำหรับเด็กยุคใหม่  ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มตั้งแต่เด็กขึ้นไป จนถึงวัยทำงาน ผู้ปกครอง เป็นการนำเรื่องของโลกแห่งความเป็นจริงเเละโลกเสมือนจริงผสานเข้าด้วยกัน ย้อนยุคกลับไปยุคไดโนเสาร์หรือ จูราสสิค ที่มีไดโนเสาร์หลายๆสายพันธุ์ที่นำมากว่า 15 สายพันธุ์ เข้ามาฟื้นชีวิต ให้ไดโนเสาร์มีชีวิตชีวา

และให้เด็กๆยุคหลังจากที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปล้านกว่าปีได้กลับมาเห็น และได้มีการเรียนรู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์ต่างๆผ่านสารานุกรมในแอปพลิเคชั่นในมือถือ สามารถทำให้เด็กๆน้องๆได้สัมผัสและรู้จักกับไดโนเสาร์กิจกรรม “Jurassic @ night safari” โดยใช้งบประมาณดำเนินการ 4 ล้านบาท 

นางสาวฐิติรัตน์  กล่าวถึงว่า สัดส่วนนักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กลางวันนักท่องเที่ยวจะน้อยกว่ากลางคืน  จึงได้มีการพัฒนาปรับปรุงให้มีอะไรใหม่ๆให้นักท่องเที่ยวได้ชม อาทิ เปลี่ยนจากโซนเดิน  ชมสัตว์ ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร เป็นโซนเสือขาว ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับเสือ ซึ่งเป็นนักล่าในโซนเดินด้วย ได้มีการเปิดตัวไปแล้ว และปีนี้ได้รับงบประมาณมาปรับปรุงโซนต่างๆ อาทิโซนของ Family Zone จะเป็นสัตว์เล็กต่างๆ กระต่ายที่เล็กที่สุดในโลก กระต่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลกมารวมกัน

ส่วนในช่วงไฮซีซั่นนี้ ได้เตรียมกิจกรรมใหม่ๆไว้หลากหลาย ที่จะต้อนรับ นักท่องเที่ยวนอกจากกิจกรรม “Jurassic @ night safari” ใหม่นี้ มีการแสดงคาวบอยโชว์ แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคาวบอย , โชว์ม้าแคระ,โชว์เสือ, โชว์นกนักล่ายาม รัตติกาล, Petting Zoo, Dancing Show, แร็พเตอร์ไฟท์อิ้งฯลฯโดยเฉพาะการแสดงน้ำพุดนตรี ไฮไลน์ สุดอลังการของสายน้ำที่มีความสูงมากกว่า30 เมตร น้ำพุดนตรี ที่มีความสวยงามทันสมัย จุดไฮไลท์แห่งใหม่ เป็นต้น

งบประมาณในส่วนของกิจกรรมใหม่ที่จัดขึ้นนี้ทั้งหมด กว่า 210 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวแบบเต็มรูปแบบในปลายเดือนพฤศจิกายนี้ จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้มีเป้าหมายที่จะ สร้างสีสัน กระตุ้นการท่องเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ให้คึกคักรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น

และในต้นไป 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี หลังจากที่เจอสถานการณ์โควิดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหายไปทั้ง 100% นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะ เป็นคนไทยไม่ถึง 100,000 คน แต่พอเปิดประเทศในปี 2566 เข้าสู่ภาวะปกติ

ในขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวเกือบ 400,000 คนแล้ว ได้รับการตอบรับจากชาวต่างชาติมากขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นถึง 50-60% เป็นนักท่องเที่ยวจีนอยู่ประมาณ 60% ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอันดับหนึ่งและรองลงมาจะเป็นนักท่องเที่ยวจากเกาหลีรายได้อยู่ที่เกือบ 130 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่น่าพอใจและ มีสัญญาณที่ดีในการก้าวต่อไปในการเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 

คาดหวังว่ามีกิจกรรมใหม่เสริมขึ้นมาจะกระตุ้นท่องเที่ยว ในช่วงไฮน์ซีซั่น ใน 3 เดือนนี้ น่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น วันลประมาณ3,000-4,000 คน โดยมีเป้าหมายรายได้ 172 ล้านบาท คาดว่าน่าจะทะลุเป้าหมายรวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2567  ตั้งเป้าไว้กว่า 500,000 คนต่อปี