นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวในงานสัมมนา PostToday Thailand Economic Drive 2024 ในหัวข้อ ความยั่งยืนกับโอกาสทางธุรกิจว่า ทาง ททท.ให้ความสำคัญต่อการผลักดันความยั่งยืนในการท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง อาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชนอย่างรอบด้าน ความรู้ความเข้าใจทางเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่กำลังอยู่ในความสนใจของคนรุ่นใหม่
ปัจจุบันแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ฟื้นตัวกลับมาหลังการหยุดชะงักจากโควิด ล่าสุดแนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วงสองเดือนแรกของปี 2567 อาจผลักดันให้ไทยไปไกลกว่าเดิม แต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง นั่นจึงจะเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างความยั่งยืนแก่ภาคการท่องเที่ยวไทย
แม้ตัวเลขการท่องเที่ยวจะขยายตัวแต่สิ่งที่ต้องใส่ใจไม่แพ้กันคือการรักษาสิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการจำเป็นต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการท่องเที่ยวไปจนทุกภาคส่วนที่ควรให้ความสำคัญ นอกจากเป็นหน้าตาประเทศแล้วทุกภาคส่วนล้วนเป็นห่วงโซ่สำคัญทั้งสิ้น
หนึ่งในโครงการที่ด้านความยั่งยืนสำคัญคือ เกณฑ์การประเมิน STGs Easy(Sustainable tourism Goals) แบ่งออกเป็นหลักการทั้งหมด 17 ข้อ โดยยิ่งผ่านเกณฑ์แต่ละข้อมากคะแนนประเมินยิ่งสูง เป็นสัญลักษณ์ว่านี่คือองค์กรที่ใส่ใจความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้การผลักดันในตลาดโลกโดยเฉพาะกับ สมัชชาการท่องเที่ยวโลกได้ดียิ่งขึ้น
ปัจจุบันภาตการท่องเที่ยวเองก็ให้การสนับสนุความยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีโครงการสนับสนุ ในทั้งในด้านธนาคาร ตลาดคาร์บอน การดูแลจัดการรอบด้าน นำไปสู่การประสบความสำเร็จ เช่น เครือโรงแรม AWC ที่ได้อันดับ 1 ของโลกในการบริหารจัดการความยั่งยืน ดังนั้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาทำให้ ทางททท.ตั้งเป้าว่า ประเทศไทยจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวได้มากถึง 40 ล้านคน สร้างเม็ดเงินได้กว่า 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งจะถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ที่แซงหน้าช่วงการระบาดโควิดอย่างเต็มรูปแบบ.