เทศกาลสงกรานต์ 21 วัน ไทยเที่ยวไทย 15.03 ล้านคน-ครั้ง เงินสะพัด 5.2 หมื่นล้าน

12 เม.ย. 2567 | 04:03 น.
อัปเดตล่าสุด :12 เม.ย. 2567 | 04:03 น.

เทศกาลสงกรานต์ 21 วัน ททท.คาดการณ์ว่าตั้งแต่วันที่ 1 – 21 เมษายน 2567 จะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ราว 15.03 ล้านคน-ครั้ง คาดว่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 5.2 หมื่นล้านบาท ภาคไหนฮ้อต เช็คที่นี่

เทศกาลสงกรานต์ 2567 ซึ่งในปีนี้ไทยจะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ ตลอด 21 วันช่วงเดือนเมษายนนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าตั้งแต่วันที่ 1 – 21 เมษายน 2567 จะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศราว 15.03 ล้านคน-ครั้ง คาดว่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 52,500 ล้านบาท โดยภาคอีสาน จะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยสูงสุด ขณะที่อัตราเข้าพักเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่จ.เชียงใหม่

จากการที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ภายหลัง UNESCO มอบประกาศนียบัตรรับรองประเพณีสงกรานต์ไทยขึ้นเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษย์ชาติอย่างเป็นทางการ โดยส่งเสริมให้มีการทยอยจัดงานสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 1-21 เมษายน 2567 (จำนวน 21 วัน) ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมอนุรักษ์และสืบทอดประเพณีอันงดงามของไทย พร้อมกับส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระจายรายได้สู่ชุมชน ภายใต้โครงการ "Maha Songkran World Water Festival” หรือ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567"

ล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้คาดการณ์จานวนและรายได้ที่เกิดจากกการส่งเสริมกิจกรรมสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 1-21 เมษายน 2567 (จำนวน 21 วัน) ไว้ว่าจะมีจำนวนการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 15.03 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 50,400 ล้านบาท

โดยภูมิภาคที่มีจำนวนการเดินทางมากที่สุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ 3.73 ล้านคน-ครั้ง ตามมาด้วยภาคกลางรวมภาคตะวันตก อยู่ที่ 3.43 ล้านคน-ครั้ง ภาคตะวันออก  อยู่ที่ 2.78 ล้านคน-ครั้ง  ขณะที่ภาคที่สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 1 คือ ภาคตะวันออก อยู่ที่ราว 10,600 ล้านบาทรองลงมาคือ กรุงเทพมหานคร อยู่ที่ 9,900 ล้านบาท ตามมาด้วยภาคเหนือ อยู่ที่ 9,700 ล้านบาท

สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศ ช่วงสงกรานต์ 21 วัน

         อีกทั้งททท.ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 1-21 เมษายน 2567 (จำนวน 21 วัน) เพื่อช่วยกระตุ้นให้พื้นที่ ทั้งดำเนินงานจัดงานเองและให้การสนับสนุนกิจกรรม "Maha Songkran World Water Festival 2024” หรือ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567”  จำนวน 6 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และ 5 พื้นที่ที่ ททท. ให้การสนับสนุน ได้แก่ สงขลา เชียงใหม่ สุโขทัย พิษณุโลก และแม่ฮ่องสอน มีจำนวนและรายได้ทางการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยประมาณ 2.29 ล้านคน-ครั้ง และมีรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 16,300 ล้านบาท อัตราการเข้าพักเฉลี่ย อยู่ที่ 74 %

ทั้งนี้ททท.คาดการณ์จำนวนการเดินทางและรายได้ผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย เฉพาะพื้นที่ที่ททท.จัดงานเทศกาลสงกรานต์ 21 วันนี้ คาดว่า เชียงใหม่ จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงสุด อยู่ที่ 82% ตามมาด้วยกรุงเทพมหานคร อยู่ที่ 74%  สงขลา 71 % แม่ฮ่องสอน 65% พิษณุโลก 59 % สุโขทัย 55 %  ส่วนจังหวัดที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ อยู่ที่ 1.38 ล้านคน ตามมาด้วยเชียงใหม่ อยู่ที่ 4.4 แสนคน พิษณุโลก 2.24 แสนคน เป็นต้น

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งานเทศกาล “มหกรรมเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่เริ่มในวันที่ 1 เม.ย.67 ที่ผ่านมา ถือเป็นการเริ่มต้นเดือนแห่งเทศกาลสงกรานต์ ไทยที่จะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ ตลอด 21 วันช่วงเดือนเมษายน โดย ททท. คาดการณ์ว่าตั้งแต่วันที่ 1 – 21 เมษายน 2567 จะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศราว 15.03 ล้านคน-ครั้ง และคาดว่าจะส่งผลให้เกิดรายได้ทางการท่องเที่ยว 52,500 ล้านบาท   

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล

ส่วนการจัดงานเฉลิมฉลองการขึ้นทะเบียนสงกรานต์ในประเทศไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของยูเนสโก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยททท. ได้เตรียมจัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 หรือ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” อย่างยิ่งใหญ่ และวิจิตรตระการตา ในวันที่ 11-15 เมษายน 2567บริเวณถนนราชดำเนินกลางและพื้นที่ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ โดยนำเสนอภาพลักษณ์ความสวยงามของประเพณีสงกรานต์ไทย ด้วยขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์กว่า 20 ขบวน

ได้แก่ ขบวนรถพระพุทธรูป  ขบวนรถเทพีสงกรานต์ ประจำปี 2567 "มโหธรเทวี" เสด็จไสยาสน์ลืมเนตรเหนือหลังนกยูง ขบวนรถพาเหรด 16 จังหวัด พร้อมด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากนักแสดงและผู้ร่วมขบวนแห่กว่าพันคน พร้อมจัดกิจกรรมนำเสนอศิลปวัฒนธรรมไทย อัตลักษณ์ประเพณีสงกรานต์ 5 ภาค และ Soft Power ไทย บริเวณท้องสนามหลวง และเพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตในโอกาสเถลิงศกใหม่ไทย

อีกทั้งททท. ยังได้จัดทำโครงการ "72 ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว" นำเสนอ 72 เส้นทางแห่งศรัทธาเพื่อเสริมสิริมงคล สร้างความรุ่งเรืองแห่งชีวิต โดยเชื่อมโยงชุมชนที่มีศักยภาพและแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ จำนวน 72 เส้นทางทั่วประเทศใน 5 ภูมิภาค โดยแบ่งเป็นประเภทเส้นทางไหว้พระธาตุ เส้นทางตามรอยพระเถราจารย์ และเส้นทางขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ เพื่อให้คนไทยได้ออกเดินทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในช่วงสงกรานต์วันปีใหม่ไทย พร้อมแนะนำร้านอาหารอร่อยในบริเวณใกล้เคียงให้ได้ลิ้มลองอีกด้วย