“สกาย กรุ๊ป” เปิดประสบการณ์เดินทางสู่อนาคต ด้วยระบบ Biometric 6 สนามบิน AOT

30 ต.ค. 2567 | 10:12 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ต.ค. 2567 | 14:00 น.

เปิดประสบการณ์การเดินทางสู่โลกอนาคต ด้วยระบบ Biometric สุดล้ำ พัฒนาการบริการโดย “สกาย กรุ๊ป” เปิดใช้งานระบบนี้ได้ทั้ง 6 สนามบิน ของ AOT เริ่มจากผู้โดยสารในประเทศวันที่ 1 พ.ย.นี้ ผู้โดยสารระหว่างประเทศ เริ่ม 1 ธ.ค.นี้

เปิดประสบการณ์การเดินทางสู่โลกอนาคต ด้วยระบบ Biometric สุดล้ำ พัฒนาการบริการโดย “สกาย กรุ๊ป” มอบประสบการณ์เดินทางแบบไร้รอยต่อ ยกระดับมาตรฐานท่าอากาศยานไทยสู่สากล ซึ่งจะเปิดใช้งานระบบนี้ได้ทั้ง 6 สนามบิน ของ AOT เริ่มจากผู้โดยสารในประเทศวันที่ 1 พ.ย.นี้ และผู้โดยสารระหว่างประเทศ เริ่ม 1 ธ.ค.นี้

 

“สกาย กรุ๊ป” เปิดประสบการณ์เดินทางสู่อนาคต ด้วยระบบ Biometric 6 สนามบิน AOT

 

นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ สกาย กรุ๊ป (SKY Group) กล่าวว่า สกาย กรุ๊ป มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในท่าอากาศยานให้ทันสมัย พัฒนาคุณภาพการบริการของท่าอากาศยานให้ได้มาตรฐานสากล ทันต่อความต้องการของผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสารที่น่าประทับใจ

 

สิทธิเดช มัยลาภ

 

สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของท่าอากาศยานไทย ที่จะเป็นผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก และก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของภูมิภาค สร้างโอกาส สร้างอนาคต ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน

  • เปิดใช้งานระบบ Biometric เริ่ม 1 พ.ย.นี้

ล่าสุด AOT เตรียมเปิดใช้งานระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition อย่างเป็นทางการ มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร โดยจะใช้งานระบบนี้ได้ทั้ง 6 สนามบิน ของ AOT ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่ สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย สนามบินภูเก็ต และสนามบินหาดใหญ่

โดยในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นี้ จะเปิดให้บริการสำหรับผู้โดยสารภายในประเทศใช้ได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT

  • SKY ICT ผู้พัฒนาการบริการระบบไบโอเมตริกซ์

การพัฒนาการบริการระบบไบโอเมตริกซ์นี้ AOT ได้สนับสนุนและวางใจให้ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ICT ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการบินและระบบการจัดการอัจฉริยะ โดย SKY ICT ได้นำเทคโนโลยี Biometric ระดับโลก มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารตั้งแต่การเช็คอิน การโหลดกระเป๋าสัมภาระ การตรวจสอบความปลอดภัย และการเข้าประตูทางออกขึ้นเครื่องอย่างไร้รอยต่อ

 

6 สนามบินทอท.เปิดใช้ระบบ Biometric

 

ทั้งนี้จะช่วยยกระดับท่าอากาศยานไทยให้เป็นสนามบินที่มีความทันสมัยเทียบเท่านานาชาติ ช่วยให้การเดินทางสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยลดระยะเวลาการรอคอยและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้โดยสาร ซึ่งระบบทั้งหมดนี้ถูกพัฒนาการบริการจากความเชี่ยวชาญของ SKY ICT

  • ประโยชน์และจุดเด่นของระบบไบโอเมตริกซ์

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT มั่นใจว่าระบบ Biometric มีความพร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศจะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในแต่ละจุดบริการ ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าปลอดอากรและของฝาก รับประทานอาหาร หรือพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล
 

ที่ผ่านมา SKY ICT ได้ให้บริการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ ได้แก่

  1. เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน)
  2. เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ)
  3. เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัต
  4. ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร
  5. ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง

 

“สกาย กรุ๊ป” เปิดประสบการณ์เดินทางสู่อนาคต ด้วยระบบ Biometric 6 สนามบิน AOT

 

โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวได้ติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้วและเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบได้มีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์

  • วิธีการใช้งานระบบ Biometric

สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน
โดยมี 2 วิธี ได้แก่

  • วิธีที่ 1 เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน

ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบฯ จะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบฯ

 

“สกาย กรุ๊ป” เปิดประสบการณ์เดินทางสู่อนาคต ด้วยระบบ Biometric 6 สนามบิน AOT

 

  • วิธีที่ 2 เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS)

โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้ว ให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก “Enrollment” จากนั้นสแกน barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือ บัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบฯ จะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบฯ เช่นเดียวกัน

 

“สกาย กรุ๊ป” เปิดประสบการณ์เดินทางสู่อนาคต ด้วยระบบ Biometric 6 สนามบิน AOT

 

เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้วถือว่าผู้โดยสารได้ให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดังนั้น เมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป

 

“สกาย กรุ๊ป” เปิดประสบการณ์เดินทางสู่อนาคต ด้วยระบบ Biometric 6 สนามบิน AOT “สกาย กรุ๊ป” เปิดประสบการณ์เดินทางสู่อนาคต ด้วยระบบ Biometric 6 สนามบิน AOT

 

ไม่เพียงแต่การพัฒนาระบบไบโอเมตริกซ์นี้ SKY ICT ยังมุ่งเดินหน้าให้บริการโซลูชันใหม่ๆ ให้สอดรับกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบิน พร้อมช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุดให้กับผู้โดยสารผ่านบริการต่างๆ อาทิ การรวมระบบ แอปพลิเคชัน ระบบรักษาความปลอดภัย และบริการอำนวยความสะดวกภายในท่าอากาศยานบริษัท ในฐานะผู้นำธุรกิจเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมการบิน การรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ และแพลตฟอร์มดิจิทัลอีกด้วย