สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย รายงานว่า สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นได้เสนอให้ยกเลิกเพดานการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในปีงบประมาณ 2568 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและส่งเสริมการจับจ่ายใช้สอยในญี่ปุ่น
โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างภาษีในปีงบประมาณ 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น
ทั้งนี้ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ Tax Refund จากร้านค้าปลอดภาษีได้ หากยอดซื้อสินค้าต่อวันไม่เกิน 500,000 เยน หรือประมาณ 112,378 บาท โดยระบบการขอคืนภาษีนี้ช่วยให้ผู้ซื้อได้รับเงินคืนจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จ่ายในการซื้อสินค้า
การยกเลิกเพดานการซื้อสินค้าปลอดภาษีจะเกิดขึ้นในช่วงที่นิยมซื้อสินค้าจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนและผู้ที่สนใจสินค้าคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น เช่น สาเก และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินเยนทำให้สินค้าญี่ปุ่นน่าสนใจขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยว แม้ว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้น แต่เพดานการซื้อที่จำกัดในปัจจุบันอาจเป็นอุปสรรคสำคัญในการกระตุ้นยอดขาย
การยกเลิกเพดานนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นในอนาคต
ขณะนี้ จำนวนร้านค้าในญี่ปุ่นที่เข้าร่วมโครงการร้านค้าปลอดภาษีทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 5.1% ในรอบ 6 เดือน และล่าสุด ณ สิ้นเดือนมีนาคม มีจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 59,485 แห่ง
นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความต้องการสินค้าหลายชนิดโดยเฉพาะสาเก ผลิตภัณฑ์เสริมความงามมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างมาก สอดคล้องกับค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินค้าญี่ปุ่นมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นมองว่า เพดานการช้อปปิ้งปลอดภาษีที่กำหนดไว้ อาจเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางไม่ให้ยอดขายของสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นได้อีก