thansettakij
เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568 ททท.ชู 9 ไฮท์ไลท์ ดึงคนร่วมงาน 1.3 แสนคน

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568 ททท.ชู 9 ไฮท์ไลท์ ดึงคนร่วมงาน 1.3 แสนคน

21 มี.ค. 2568 | 06:30 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มี.ค. 2568 | 09:08 น.

ททท.ชู 9 ไฮไลท์ “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568” ยก 5 Must Do in Thailand เสิร์ฟเที่ยวไทย วันที่ 26-30 มี.ค.นี้ ตั้งเป้าดึงผู้เข้าชมงาน 130,000 คน สร้างการรับรู้ 45 ล้านคน-ครั้ง

วันนี้ (วันที่ 21 มีนาคม 2568) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าวการจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568" ครั้งที่ 43  ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26-30 มีนาคม 2568 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  มหกรรมท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่นี้เป็นหนึ่งใน Grand  Festivity ที่จะมอบความสุขแบบเต็มแมกซ์ให้กับนักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “5 Must Do in Thailand”

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568 เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568

พร้อมขนไฮไลต์พิเศษจาก 9 โซนกิจกรรมหลัก ที่จะพาดื่มด่ำกับเสน่ห์ของประเทศไทยครบทุกมิติ ทั้งแลนด์มาร์ก จุดถ่ายภาพสุดปัง ของดีของเด็ดจากทั่วประเทศ นวัตกรรมการท่องเที่ยวล้ำสมัย รวมถึงโชว์ศิลปวัฒนธรรมและการแสดงจากศิลปินชื่อดัง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจเดินทางรับความสุขทันที ที่เที่ยวไทยตลอดทั้งปี

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ความสนุกและความสุขทุกมิติของท่องเที่ยวไทย กำลังจะเริ่มต้นอีกครั้งใน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2568 ครั้งที่ 43” ในวันที่ 26-30 มีนาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ททท. พร้อมพาทุกท่านเปิดกล่องแห่งความสุข ยกความมหัศจรรย์ของเมืองไทยเอาไว้ในงานเดียว  ครั้งนี้ ททท. จัดเต็มนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวตามแนวคิด “5 Must Do in Thailand” ควบคู่กับแนวคิด Carbon Neutral Tourism

ฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

สอดคล้องกับปีท่องเที่ยวไทย “Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025”  ให้งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย เป็นหนึ่งใน Grand Festivity ที่จะสร้างแรงบันดาลใจเดินทางไปพบกับ Grand Moment พร้อมรับความสุขทันที ที่เที่ยวไทยตลอดทั้งปี

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568 ททท.ชู 9 ไฮท์ไลท์ ดึงคนร่วมงาน 1.3 แสนคน

ทั้งยังคง DNA ของหน่วยงานส่งเสริมแนวทางการท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3  ผ่านกิจกรรม ลดโลกเลอะ Zero Waste to Landfills กำหนด 14 จุดบริการคัดแยกขยะทั่วงาน เพื่อช่วยลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังบ่อฝังกลบให้น้อยที่สุด

โดยขยะทุกชนิดจะได้รับการคัดแยกและกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายท้าทายขึ้นไปอีกกับการลดปริมาณขยะที่ไม่ได้แยกสูงสุดที่ 10% สะท้อนความตั้งใจให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง

เปิดไฮไลท์ 9 โซน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568

พบกับ 9 โซนกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ ได้แก่ 5 โซนหมู่บ้านภูมิภาค และ 4 โซนกิจกรรมสำคัญ แต่ละโซนจัดเต็มนำเสนอแลนด์มาร์กสุดไอคอนิก จุดถ่ายภาพ อาหารและสินค้าท้องถิ่นจากทั่วประเทศ กิจกรรมสาธิตและ DIY และเพิ่มความสนุกตื่นตาตื่นใจไปพบโชว์วัฒนธรรมและร่วมสมัยที่ไม่ควรพลาด ดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • โซนที่ 1 Amazing Thailand

สุขทันที 65 ปี ททท. ชวนไป “ฮีลใจ” รับความสุขสุดๆ กับแคมเปญสื่อสารและบริการต่าง ๆ ของ ททท. พบประสบการณ์เหนือระดับกับแลนด์มาร์กนิทรรศการ ททท. 65 ปี ในรูปแบบ Team Lab และตื่นตาตื่นใจไปกับจอภาพวีดีโอ 3 มิติเคลื่อนไหวเสมือนจริง พร้อมย้อนวันวานสู่ยุคก่อตั้ง

ททท. ทดลองถ่ายภาพสุดคลาสสิกกับ ฉายานิติกร พักผ่อนในมุมกาแฟ Amazing Coffee ชอปสินค้าของที่ระลึกภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ในโซน TAT Shop ชมนิทรรศการภาพ อนุสาร อ.ส.ท.

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568 ททท.ชู 9 ไฮท์ไลท์ ดึงคนร่วมงาน 1.3 แสนคน

พร้อมเดินชอปปิงกับ 10 ร้านค้า Flea Market ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพลิดเพลินกับ 5 Sustain Workshop และ พูดคุยกับนักเขียน ช่างภาพ อินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยว แบบ Exclusive ในโซน อ.ส.ท. รวมทั้งรับข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยวกับเคาน์เตอร์ 1672 Travel Buddy สนุกกับกิจกรรมถ่ายภาพตู้สติกเกอร์น้อง Worldboy และน้อง Huuyaow พร้อมลุ้นรับของที่ระลึกสุดพิเศษ Art Toy Journey Collection

พลาดไม่ได้กับกิจกรรมเติมความสุขเต็มสตรีมแบบไม่กั๊ก กิจกรรมไลฟ์สุดพิเศษของศิลปินวง DICE และนักแสดงจากซีรีส์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ  รวมทั้งร่วมพูดคุยกับ นักแสดงนำจากซีรี่ย์เรื่อง RESET

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568 ททท.ชู 9 ไฮท์ไลท์ ดึงคนร่วมงาน 1.3 แสนคน

  • โซนที่ 2  หมู่บ้านภาคตะวันออก  

เปิดประสบการณ์ความมหัศจรรย์ทุกเฉดสีของ 9 จังหวัดภาคตะวันออก ผ่านแนวคิด "5 Must Do in the East” โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์กอาณาจักรผีเสื้อแห่งผืนป่าตะวันออก อุทยานแห่งชาติปางสีดา และอุทยานแห่งชาติตาพระยา จ.สระแก้ว พร้อมจุดถ่ายภาพซุปตาร์ที่โด่งดังไปทั่วโลก “น้องหมูเด้ง” ความสูง 2 เมตร และจุดชมนกนางนวลบางปู จ.สมุทรปราการ

ทั้งตอกย้ำเรื่องกินยืนหนึ่งด้วยยกทัพอาหารทะเลและอาหารถิ่น กว่า 50 ร้าน อาทิ ทุเรียน จากจังหวัดระยองและจันทบุรี หมี่กรอบมะยงชิด แคนตาลูปปั่น ข้าวหลามช็อต ไอศกรีมผลไม้ มะม่วงบางคล้า มะพร้าวน้ำหอม หอยจ๊อปู ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟกั้ง เส้นจันท์ผัดปู หมูชะมวง ข้าวคลุกพริกเกลือ

เพิ่มความสนุกกับกิจกรรม DIY และสาธิตจากชุมชนต่างๆ  ชมการแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง, การแสดง Street Show หรือ มาสคอตตัวการ์ตูน อาทิ การแสดงมายากล Juggling มาสคอตตัวการ์ตูนจากสวนน้ำ ทิฟฟานี่โชว์ , คาบาเร่ และการแสดงหุ่นคน 

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568 ททท.ชู 9 ไฮท์ไลท์ ดึงคนร่วมงาน 1.3 แสนคน

  • โซนที่ 3  หมู่บ้านภาคกลาง

พร้อมเปิดบ้านต้อนรับด้วยแนวคิด “5 Must Do in Central Thailand”  เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวได้ตลอดปี ชวนย้อนวันวานเป็นคนกรุงสุดโก้ในบรรยากาศสถานีรถไฟหัวลำโพงและโบกี้รถไฟ SRT Royal Blossom จุดเริ่มต้นของการเดินทางที่สุดแสนคลาสสิก และจำลองพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นแลนด์มาร์กไอคอนิคที่มาพร้อมกิจกรรมถ่ายภาพสตูดิโอย้อนยุค

ภายในหมู่บ้านจัดไฮไลต์ โซนล้านตลาดถนนคนเดิน ขนร้านอาหารการันตีรางวัลและร้านเก่าแก่มาเสิร์ฟแน่น ๆ อาทิ บุญเลิศบะหมี่หมูย่างซีอิ๊ว  บ๊ะจ่าง เจ้ฮั้ว ตลาดสะพาน 2 ข้าวแช่แม่เล็ก สะกิดใจ ขนมจีนทอดมันยายกับตา ข้าวคลุกกะปิชุ่นเซ้ง ผักกาดเบเกอรี่ ทองม้วนแห้วแม่เทียม และจำลองการขายอาหารในหาบเร่แผงลอยในอดีต อาทิ ข้าวเกรียบว่าว ปลากริมไข่เต่า ปลาหมึกบดย่าง และน้ำจรวด

ก่อนเสิร์ฟโชว์จากศิลปินและการแสดงเชิงวัฒนธรรม อาทิศรราม น้ำเพชร เก่ง ธชย โก้ Mr. Saxman x ดนตรีไทย น้องเพชร กีตาร์ แตรงวงประยุกต์ประกอบดนตรีไทย ครูสุธีร์ สิงห์บุรี รำกลองยาว สุนทราภรณ์-ลีลาศ BKK Group (กลอง) Not'Toy และดนตรีวัยเก๋า ยุค 70

  • โซนที่ 4 หมู่บ้านภาคเหนือ  

ชวนสัมผัสเสน่ห์เมืองล้านนากับคอน “SEASON OF NORTH 2025” ผ่าน “5 Must Do in Northern Thailand” ที่มาพร้อมการตกแต่งบรรยากาศสไตล์ Modern Lanna พบแลนด์มาร์กจอ LED ขนาดยักษ์ ฉายภาพแหล่งท่องเที่ยวและ 3D Animation “น้องเอวา” เสือโคร่งหน้าแบ๊ว สุดน่ารักประจำไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่ และจุดถ่ายภาพ “ศิลาสปา นวดฟ้อนเล็บ”

ฉากแหล่งท่องเที่ยว 3 มิติ ถ้ำสีฟ้า จ.ตาก จำลองเทศกาลสงกรานต์ภาคเหนือ ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง จ.เชียงใหม่  ก่อนจะแวะ กาดหมั้ว จัดเต็มอาหารพื้นเมืองเหนือลำแต้ๆ และอาหารถิ่นหากินไม่ง่ายอีกมากมาย เช่น ถั่วพูซิ่ง ดีเจเวียงสอน, น้ำเงี้ยวเชียงราย, ข้าวห่อสาวลับแล, Fish & Chips ปลาแรด, ข้าวเปิ๊บ บ้านนาต้นจั่น เป็นต้น

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568 ททท.ชู 9 ไฮท์ไลท์ ดึงคนร่วมงาน 1.3 แสนคน

เติมความสดชื่นที่ โซนกระทรวงเสพความสุข เสิร์ฟเครื่องดื่มชา กาแฟ โกโก้ ภายใต้ธีม 365 DAYS COFFEE AT NORTH หรือจะผ่อนคลาย เอาใจชาวออฟฟิศซินโดรมกับ 2 สปาคุณภาพ สัปปายยะ สปา จ.แม่ฮ่องสอนและศิรา สปา จ.เชียงใหม่

อนม่วนจอยไปกับศิลปิน เช่น John Nattachot, คิน ธนชัย, เก๋ วรรณ์ฐกานต์, Better Weather และ ปราง ปรางทิพย์ และการแสดงศิลปวัฒนธรรม จากวิทยาลัยนาฎศิลป์เชียงใหม่ สุโขทัย และวิทยาลัยนาฎศิลป์ส่วนกลาง ตลอด 5 วัน

  • โซนที่ 5 หมู่บ้านภาคใต้

หล๊บเรินปักษ์ใต้บ้านเฮากับแนวคิด “5 Must do  in Thailand : GO SOUTH” เสิร์ฟอัตลักษณ์พหุวัฒนธรรมตั้งแต่แลนด์มาร์กป้าย SOUTHERN Village กับน้องโลมาสีชมพู และ วงเวียนสุรินทร์จังหวัดภูเก็ต วังยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และซุ้มประตูสีสันลายผ้าปาเต๊ะ ผ้าบาติก และลูกปัดโนรา

ก่อนวาร์ปไปหรอยแรงกันที่ “หลาดหรอยเพ Must Taste” อัดแน่นเมนูอาหารรสใต้ หรอยแรงอก! ดื่มด่ำสัมผัสวิถีแบบคนใต้ ทั้งกาเฟ โรตี ชาชัก เครื่องดื่ม เช่น ครัวต้นฝน ร้านเจ๊น้อง จังหวัดพังงา  เจริญข้าวมันไก่เบตงพันธุ์แท้ จ.ยะลา โกสุยหมูย่าง ตรัง จ.ตรัง หอยนางรมสุราษฎร์ธานี (GI) จ.สุราษฎร์ธานี ชาชักอีซัน-โรตียะลา จ.ยะลา  บาราโรตี จังหวัดสตูล

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568 ททท.ชู 9 ไฮท์ไลท์ ดึงคนร่วมงาน 1.3 แสนคน

ทั้งกิจกรรมสาธิตและ DIY กับงานศิลป์แดนใต้ คัดสรรอย่างมีเอกลักษณ์จากวัสดุในท้องถิ่น ในโซน Must Try:  "หลาด Craft…ลองแลต๊ะ” หรือจะนวดคลายเส้นเเบบผ่อนคลายสไตล์ Southern “หลาดคลายเส้น…ได้แรงอก!”

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568 ททท.ชู 9 ไฮท์ไลท์ ดึงคนร่วมงาน 1.3 แสนคน

ก่อนจะหนุกสุดใจได้แรงอกกับ Must See “หรอย เอนเตอร์เทนเมนท์” ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมแดนใต้หาชมได้ยาก อาทิ การแสดงโนรา (ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จาก UNESCO) ระบำนกกรงหัวจุก ระบำชาชัก และร่วม “รำวงเวียนครก” ย้อนยุคแด๊นซ์ มันส์ๆ ทุกวัน ในเวลา 18.00-19.00 น.

  • โซนที่ 6 หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

หลงรักถิ่นอีสานไปกับแนวคิด บอกเล่า“ประเพณีสีอีสาน วิถีแห่งศรัทธา" ของพื้นที่ราบสูง 20 จังหวัด ภายใต้แนวคิด 5 Must Do in Isan ตั้งตระหง่านแลนด์มาร์กสุดว้าว ต้นกระธูปยักษ์ไฮเทค ความสูง 7 เมตร และกระธูปบริวาร สะท้อนงานบุญเดือนสิบ จ.ชัยภูมิ และจุดถ่ายภาพ งานบุญกระธูป จ.ชัยภูมิ มาลัยข้าวตอก จ. ยโสธร และผีตาโขน จ.เลย

ห้ามพลาดเติมความแซ่บนัวในโซน Must Taste “หม่องแซ่บนัว” กับเมนูเด็ดเป็นตาแซ่บ ชวน "น้ำลายแตก" รวมกว่า 40 ร้าน ทั้งร้านค้าขายดีจากปีที่ผ่านมาที่พร้อมกลับมาเสิร์ฟความอร่อยอีกครั้ง ได้แก่ แม่เสงี่ยมแจ่วฮ้อน จ.กาฬสินธุ์ หม่ำแม่คำตัน จ.ชัยภูมิ ตำกระเทยสาเกต จ.ร้อยเอ็ด สามพี่น้องไก่ย่างเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น หมี่กระโทกป้าเปลื้อง จ.นครราชสีมา

หรือจะของแซ่บในตำนาน อย่างส้มหมูทอด ไส้กรอกปลา เนื้อเสียบไม้ย่าง ขนมจีนน้ำยาโคดำ สวนอินทรีย์เค้กกล้วยหอม ก็มีพร้อมให้เลือกสรร

จากนั้นประลองฝีมือกันที่โซน “หม่องเฮ็ดสุดฝีมือ” ส่งกิจกรรม Art and Craft Therapy : “ศิลป์อีสาน”สุดยูนีคมาสร้างความเพลิดเพลินไม่มีเบื่อ และสุดท้ายสไตล์ขาเลาะออนซอนกันต่อกับโซน “อีสานม่วนซื่น” ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสานที่หาชมได้ยากจากและดนตรีลูกทุ่งอีสานอินดี้

  • โซนที่ 7  พันธมิตรและห้าง ททท

ได้แก่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กระทรวงวัฒนธรรม หอการค้าไทย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตำรวจท่องเที่ยว  บริษัท ปตท. จำกัด สถาบันวิจัยดารา ศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT การรถไฟแห่งประเทศไทย

รวมทั้งรวบรวมดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว 8 หน่วยงาน เสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวผ่าน “ห้าง ททท. ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA)  สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) และสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA)

  • โซนที่ 8  เวทีกลาง

เพิ่มดีกรีความสนุกด้วยการแสดงดนตรี ศิลปินที่มีชื่อเสียง และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ ศรราม น้ำเพชร, ก้านตอง ทุ่งเงิน, วง MEAN, ASIA 7, เอิ๊ต ภัทรวี, เรนิษรา, วงกางเกง, ต่าย อรทัย, ไรอัล  กาจบัณฑิต, อ๋อมแอ๋ม เพชรบ้านแพง, Monica, เบล วริศรา, ดอกอ้อ ทุ่งทอง, Ponchet ,เป๊ก ผลิตโชค, สุนทราภรณ์, Goldred, เต๋า ภูวศิลป์, เล็ก รัชเมศฐ์

รวมทั้งกิจกรรม Fan Meeting กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ และใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ นอกจากนี้ยังมีการแสดงเชิงวัฒนธรรมและร่วมสมัย

การประกวดเทพีเทศกาลเที่ยวเมืองไทย การเดินแบบแฟชั่นโชว์ กิจกรรมแจกของรางวัลงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย โดยศิลปินและนักแสดงที่มีชื่อเสียง พบกับคู่จิ้นสุดฮอต ฟรีน-เบคกี้, คิมม่อน-คอปเปอร์, บิลลี่-เบ้บ พร้อมความสนุกจาก ดีเจมะตูม และดีเจบุ๊คโกะ ที่จะมามอบความสุขให้แก่ทุกท่าน

  • โซนที่ 9 Sustainable Tourism Goals

ตอกย้ำหมุดหมายของการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืน การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ พบไฮไลต์แลนด์มาร์ก วาฬบรูด้า ประติมากรรมขยะพลาสติก กว่า  90 กิโลกรัม สร้างสรรค์โดย Wishulada ศิลปินผู้ผลิตงานศิลปะจากขยะและของเหลือใช้ เพื่อสะท้อนปัญหาการจัดการขยะ ควบคู่กับการนำเสนอแนวคิดความยั่งยืน โดยเนรมิตให้ทุกพื้นที่เป็นพื้นที่ธรรมชาติ จำลอง GREEN PLAYGROUD สวนสนุกขนาดย่อมที่ฉายภาพ Mapping สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแหล่ง Low Carbon Life Style และ New Trends Substainable Tourism และพื้นที่จำลอง TAT ECO PARK ปิดท้ายกับการแสดงจากศิลปิน Serious Bacon และกิจกรรมเสวนาจากคุณก้อง GREEN GREEN

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนให้ทุกคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Amazing Thailand ซึ่งจะมีฟังก์ชันแผนที่ 3D และระบบนำทาง AR ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถเห็นผังการจัดงานแบบ 3 มิติ หาจุดแลนด์มาร์ก บูธ หรือร้านค้า ภายในงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนสามารถดูตารางกิจกรรมเวทีหลัก พร้อมแจ้งเตือนล่วงหน้าหากมีกิจกรรมที่สนใจ  รวมทั้งชวนร่วมกิจกรรมแลกรับ Art Toy Journey Collection และของที่ระลึกจาก ททท. เพียงรับพาสปอร์ตจากบูธ 1672 Travel Buddy ที่โซนที่ 1 Amazing Thailand : สุขทันที 65 ปี ททท. แล้วสะสมยอดค่าใช้จ่ายภายในงาน ระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2568

ยอดค่าใช้จ่ายครบทุก 100 บาท จะได้รับการสแตมป์สะสม 1 คะแนนจากร้านค้า เมื่อสะสมคะแนนในพาสปอร์ตครบตามยอดที่กำหนด มารับของที่ระลึกได้เลย จำกัดจำนวนพาสปอร์ตเพียง 100 เล่มต่อวันเท่านั้น

ททท. คาดการณ์ว่าจะมี ผู้เข้าร่วมชมงานตลอด 5 วันจัดงานจำนวน 130,000 คน สร้างการรับรู้ 45 ล้านคน-ครั้ง สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 43 ประจำปี 2568” วันที่ 26-30 มีนาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เข้าร่วมงานฟรี

โดยสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะ ได้แก่ รถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, เดินทางโดยรถแท็กซี่ ณ จุดบริการ รับ - ส่ง ชั้น G บริเวณฝั่งทะเลสาบ, รถประจำทาง