นายสกุล เกียรติ์จีรวิรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้สนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการ ในการพัฒนาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มพืชเศรษฐกิจ หลังจากที่มีการปลดล็อกพืชกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด ทำให้พืชกระท่อม เป็นพืชสมุนไพรตัวใหม่ ที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ
ทั้งนี้ที่ผ่านมาภาคเอกชนได้นำคณะผู้ประกอบการพืชสมุนไพรกระท่อมจากประเทศไทย และ ต่างชาติ จากมหานครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศมาเลเซีย เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของห้องปฏิบัติการทดสอบ สำนักงานสาขากรุงเทพ พร้อมหารือด้านการพัฒนากระบวนการทดสอบพืชกระท่อมให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อเพิ่มโอกาสในการจัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศ
นายสกุล กล่าวว่า ปัจจุบัน พืชกระท่อม เป็นพืชสมุนไพรตัวใหม่ ที่ทำเงินได้มหาศาล ด้วยคุณสมบัติหลายด้าน ทั้งในทางการแพทย์ เครื่องสำอาง อาหารและเครื่องดื่ม โดยส่งเสริมให้บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือเซ็นทรัลแล็บไทย สนับสนุนงานทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งมั่นใจในศักยภาพ มาตรฐาน ความถูกต้องแม่นยำ และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจทดสอบสินค้าทางการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ได้เตรียมออกหลักเกณฑ์การสุ่มตัวอย่าง เพื่อใช้ประกอบการออกให้ใบรายงานผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพสินค้า หรือ Certificate of Analysis (COA) ที่ผู้ผลิตตรวจสอบ ทดสอบ และรับรองให้กับผู้ซื้อ ตามล็อตการผลิตนั้น ๆ เทียบกับค่ามาตรฐาน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประกอบการในการส่งออก โดยจะเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
ด้านนายชาคริต เทียบเธียรรัตน์ กรรมการผู้อำนวยการเซ็นทรัลแล็บไทย กล่าวว่า ในปีนี้มีการลงทุนเครื่องมือขั้นสูงเพื่อรองรับการตรวจทดสอบรายการใหม่ๆ ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการของภาครัฐและผู้ประกอบการ สำหรับพืชเศรษฐกิจในกลุ่มสมุนไพร ทั้งกัญชา กัญชง และกระท่อม ถือเป็นสินค้าใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้เซ็นทรัลแล็บไทย ได้รับใบอนุญาตในการตรวจคุณภาพพืชกระท่อมถูกต้องตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจหาสารสำคัญในพืชกระท่อมคือ ไมทราไจนีน และ เซเว่นไฮดรอกซี่ไมทราไจนีน ซึ่งเป็นกลุ่มสารที่ผู้ผลิตสามารถไปนำใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้ เช่น ทางการแพทย์ หรือนำไปเป็นส่วนส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม
นอกจากยังสามารถให้การตรวจคุณภาพระหว่างกระบวนการปลูกตั้งแต่ ต้นน้ำ ถึง ปลายน้ำ เพื่อให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ มีความมั่นใจในคุณภาพของผลผลิตจากพืชกระท่อมด้วย
นายรีกรือลี เจะแว ประธานที่ปรึกษาธุรกิจระหว่างประเทศบริษัท ดีน่า ฟาร์ม จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ศึกษาและติดตามนโยบายภาครัฐถึงแนวทางการพัฒนาพืชกระท่อม เนื่องจากมีคุณสมบัติที่หลากหลาย และในทางเศรษฐกิจก็เป็นที่ยอมรับจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง เนื่องจากไม่ผิดกฎหมายทั้งไทยและในการนำเข้าประเทศ อีกทั้งไม่ขัดหลักศาสนาอิสลามสามารถใช้พืชกระท่อมได้
ที่ผ่านมา มีเพียงประเทศอินโอนีเซียและมาเลเซียเท่านั้นที่มีการส่งออกสินค้าจากกระท่อม แต่หลังจากที่ประเทศไทยปลดล็อกแล้ว จึงถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการและเกษตรกร เพราะผลการศึกษาระบุว่า กระท่อมไทย มีค่าสารสำคัญไมทราไจนีนสูง
ดังนั้น จะต้องเร่งทำตลาดผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบคือพืชกระท่อมของไทยสู่ตลาดโลก โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคหรือมวลมนุษย์ชาติเพราะประโยชน์ที่มีมากมาย ดังนั้นสิ่งที่คำนึงถึงคือความเป็นมาตรฐาน ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้ง ปัจจัยการผลิต ดิน/น้ำ/อากาศ และมาตรฐาน GAP,GMP และการแปรรูปอื่น ๆ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งปลูกและผลิตกระท่อมที่ดีที่สุดในโลก