ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมการเกษตรครบรอบ 55 ปี พร้อมมอบรางวัลบุคคล หน่วยงานดีเด่น เกษตรกรดีเด่น สถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ และผู้ทำคุณประโยชน์กับกรมส่งเสริมการเกษตร และแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตรแก่ข้าราชการและลูกจ้างกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสมเกียรติ กอไพศาล ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ กรมส่งเสริมการเกษตร ว่า จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้คนทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศไทยในฐานะที่เป็นครัวของโลก วิกฤตดังกล่าวจึงถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำคัญที่จะต้องเร่งพัฒนาการผลิตอาหารให้เพียงพอเพื่อเลี้ยงประชากรไทยและประชากรโลก
ดังนั้นการพัฒนาให้ภาคการเกษตรมีความเข้มแข็ง รู้เท่าทัน ปรับตัวพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงของโลก จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการมุ่งพัฒนาเกษตรกรด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่าง ๆ เพื่อให้มีพร้อมทั้งทักษะในการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอย่างคุ้มค่า การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การยกระดับคุณภาพสินค้า ตลอดจนการแสวงหาช่องทางตลาดที่หลากหลายรองรับ
ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการเกษตรมีการพัฒนาและส่งเสริมเกษตรกรในทุก ๆ ด้าน โดยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรสู่การเป็น Digital DOAE และปรับระบบการทำงานเข้าสู่ New Normal รวมทั้งการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้แนวคิด “Next Step” ขับเคลื่อนองค์กรวิถีใหม่…ก้าวต่อไปด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
มีการดำเนินงาน 2 แนวทาง ได้แก่ การขับเคลื่อนองค์กรและระบบการทำงาน มุ่งพัฒนากรมส่งเสริมการเกษตรสู่การเป็น Digital DOAE และการดำเนินงานภารกิจสำคัญ ซึ่งถือได้ว่าเป็นภารกิจที่ท้าทายการทำงานของนักส่งเสริมการเกษตรเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังคงดำเนินอยู่ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศและทั่วโลก
สำหรับการดำเนินงานในปี 2566 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตรมุ่งขับเคลื่อนการทำงานโดยเน้นหลักตลาดนำการผลิต และนำนวัตกรรม เทคโนโลยี มาปฏิรูปภาคการเกษตรสู่ยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “Keep Going, Keep Growing” และกรอบ “9 ความท้าทาย ก้าวต่อไปของนักส่งเสริมการเกษตร” ซึ่งประกอบด้วย 1) การขับเคลื่อนงานพระราชดำริ และเกษตรกรรมยั่งยืน 2) การขับเคลื่อน BCG Model ควบคู่กับการส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่ 3) การส่งเสริมเกษตรสมัยใหม่ เกษตรอัจฉริยะ มุ่งสู่เกษตรมูลค่าสูง
4) การผลักดันการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในงานส่งเสริมการเกษตรให้ครอบคลุมภารกิจต่าง ๆ 5) การสร้างผู้ประกอบการเกษตรสมัยใหม่ 6) การส่งเสริมการใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ 7) สร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายการทำงานในพื้นที่ 8) ผลักดันการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการกับหน่วยงานต่าง ๆ และ 9) พัฒนาศักยภาพและการบริหารจัดการองค์กร เพื่อพัฒนาเกษตรกร และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป