สืบเนื่องจาก กรมวิชาการเกษตร ได้มีคำสั่งย้ายด่วน นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรที่ 6 (สวพ.6) ให้เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร และมีคำสั่งให้ นายพิทวัฒน์ อ่อนทองหลาง ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช เข้าดำรงตำแหน่ง ผอ.สวพ.6 นั้น
นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี” นายกสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.65) ทางสมาคม และสมาคมทุเรียนไทยและเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนภาคตะวันออกจะชวนพ่อแม่พี่น้องชาวสวนทุเรียนไปร่วมให้กำลังใจ ผอ.ชลธี นุ่มหนู ณ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) และช่วงบ่ายวันเดียวกัน จะตั้งโต๊ะแถลงข่าว ให้มีการทบทวน ระงับ คำสั่งโยกย้ายใหม่ ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“สมมติฐานฯ คาดว่า น่าจะเป็นปัญหา GAP คิดจำนวนเป็นไร่ ทาง สวพ.6 ไปรีบออกให้ชาวบ้านทั้งหมดเลย กลัวปีหน้า GAP ไม่มีใช้ แล้วยังไปชี้โพรงอีกไม่อยากเสียเงินตรวจ GAP ของเอกชน ให้ไปรวมตัวเป็นสหกรณ์ให้หมด ซึ่งมองว่าน่าจะไปขัดรายได้ จึงทำให้มีหลายสมาคมและเกษตรกร ผู้ค้า จะแถลงข่าวช่วงบ่ายทั้งหมด ขอคัดค้านคำสั่งโยกย้ายไม่ชอบธรรม”
นายวุฒิชัย คุณเจตน์ นายกสมาคมทุเรียนไทย กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งชุดนี้ ก็อยากให้ทางกรมวิชาการเกษตรได้ทบทวนคำสั่งใหม่ จากผลคำสั่งดังกล่าวในการเปลี่ยนม้ากลางศึกกลางคัน ทำให้ได้รับผลกระทบกระเทือนถึงตลาดแสนล้าน อย่างไรบ้าง ในวันพรุ่งนี้แต่ละภาคส่วนจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในช่วงบ่าย
เช่นเดียวกับ นางบุษบา นาคพิพัฒ นายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก กล่าวถึง นายชลธี นุ่มหนู (ผอ.สวพ.6) ผู้ที่ทำงานต่อสู้เพื่อชาวสวนทุเรียนไทย ที่ทุ่มเทการทำงานปราบปรามทุเรียนด้อยคุณภาพไม่ให้ส่งออกไปยังประเทศคู่ค้า เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงให้กับวงการทุเรียนบ้านเรา คนที่ทำงานเพื่อประเทศชาติ งานที่เขาทุ่มเทมาตลอดเพื่อเกษตรกรชาวสวนทุเรียนคนทำงานที่ตรงไปตรงมา และอุทิศตนเพื่องานแบบนี้ ทำไมไม่ให้เขาสานต่อตามเจตนารมย์ เพื่อลูกหลานชาวจันทบุรี และ ทุเรียนไทย
นายภานุศักดิ์ สายพานิช ที่ปรึกษาและอดีตนายกสมาคมทุเรียนไทย กล่าวว่า จะเห็นว่าผลงานที่ผ่านมามีมาก แม้แต่ทูตเกษตรในแต่ละท่าน คนจีน พ่อค้า ลูกค้า และผู้บริโภค ทุเรียนไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งไป 10 ลูก รับประทานได้เกือบหมด ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ส่งไป 10 ลูก รับประทานได้ 2 ลูก เพราะฉะนั้นก็ทำให้ราคากลับมาดีขึ้น การตอบรับปลายทางจีนก็ดีขึ้น สูงขึ้น แม้ว่าปริมาณผลผลิตจะเพิ่มขึ้น ก็ต้องยอมรับว่า ผอ.มีส่วนที่ช่วยเป็นจุดเริ่มต้น คราวนี้ที่เป็นห่วงก็คือไม่ได้ปรักปรำคนใหม่ที่จะมา แต่ว่าตอนนี้เรามีศึกกับเวียดนาม สามารถส่งทุเรียนเข้าแล้ว และยังมีประเทศอื่นตามมาอีกหลายประเทศ
ถ้าเราเปลี่ยนขุนพลที่สำคัญจะเกิดอะไรขึ้นในการควบคุณภาพ จุดสำคัญอยู่ตรงไหน ก็คือการควบคุมคุณภาพต้นทาง ถ้ากฎหมาย เรื่องทุเรียนอ่อนออกมาจะเบาใจลงแล้ว แต่ว่าตรงนี้ยังไม่มี เพราะฉะนั้นต้องการเจ้าหน้าที่ที่กล้าลุย กล้าเข้าไปรักษาคุณภาพของทุเรียนไทย เพราะฉะนั้นอยากให้ทบทวนคำสั่ง ให้ผอ.ปฏิบัติหน้าที่ต่อเพื่อช่วยทุเรียนไทยก่อน
ปิดท้ายนายภาณุวัชร์ ไหมแก้ว นายกสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนมังคุดแห่งประเทศไทย กล่าวอีกมุมมองที่น่าสนใจ ว่า เข้าใจเป็นระบบของราชการ เป็นเรื่องปกติ การโยกย้ายตำแหน่ง แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา มองความคิดเห็นเป็นอย่างไร ไม่กล้าไปก้าวก่าย แต่ก็ยอมรับว่า ผอ.ชลธี มีประสิทธิภาพในการทำงาน มองว่าถ้าโยกย้ายไปแล้ว มีโอกาสขึ้นเป็นรองอธิบดี และ อธิบดี ถัดไป เชื่อว่ามุมมองทุเรียนไทยสามารถจะพัฒนาได้ทั้งประเทศ แต่ถ้าอยู่ในปัจจุบันนี้สามารถพัฒนาได้แค่ภาคตะวันออก แต่ภาคอื่นๆ ไม่สามารถพัฒนาได้ อำนาจจำกัด