รศ.น.สพ. ดร.คมกริช พิมพ์ภักดี คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยถึง สถานการณ์หมูเถื่อนที่กำลังระบาดหนักทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานว่า มีความเป็นห่วงจะส่งผลต่อสุขอนามัยของคนไทย ซึ่งจะก่อปัญหาด้านสาธารณสุขได้ในอนาคต เนื่องจากหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามานั้น เป็นหมูหมดอายุ ไม่มีคุณภาพ ไม่ผ่านการตรวจโรค และมีสารปนเปื้อนอันตรายกว่าที่คาด
สำหรับประเทศไทยมีกฏหมายหลายฉบับที่ออกมาเพื่อความปลอดภัยทางอาหาร ตัวอย่าง หมูไทยจะต้องผ่านการตรวจทั้งก่อนและหลังการชำแหละ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นหมูที่ปลอดภัยต่อคนไทย แต่หมูเถื่อนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าพนักงาน มีทั้งเชื้อโรคหรือสารต้องห้ามที่ประเทศไทยไม่อนุญาตให้ใช้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ เนื้อหมูที่ลักลอบเข้ามาจากสหภาพยุโรปและอเมริกา เป็นหมูแช่แข็งที่ต้องพึงระวัง เพราะส่วนใหญ่เป็นหมูที่ไม่ได้คุณภาพ บางล็อตเป็นหมูหมดอายุ หรือเป็นหมูที่คนในประเทศต้นทางคัดทิ้ง ไม่ต้องการบริโภค แทนที่จะฝังทำลายกลับส่งเข้ามาดัมพ์ตลาดในเมืองไทย โดยขายในราคาถูกมาก ซึ่งจากระยะทางการขนส่งที่ไกลใช้เวลาหลายเดือน กว่าจะถึงเมืองไทยย่อมไม่ได้มาตรฐาน และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปนเปื้อนในระหว่างทาง
ดังนั้นย่อมไม่ใช่อาหารปลอดภัยที่คนไทยสมควรบริโภค โดยสารตกค้างดังกล่าวมีทั้งที่เป็นสารก่อมะเร็ง เช่น เบต้าอะโกรนิสต์ และยาปฏิชีวนะที่บางประเทศยังอนุญาตให้ใช้ รวมถึงบางส่วนยังปนเปื้อนเชื้อรา ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพผู้บริโภค ที่เบื้องต้นอาจพบอาการท้องเสีย หรือในระยะยาวสามารถพบเชื้อปนเปื้อนนั้น ๆ ตกค้างในร่างกายทำให้เกิดการเจ็บป่วยเรื้อรัง และก่อปัญหาด้านสุขภาพและการสาธารณสุขของประเทศในระยะยาว
“ผู้บริโภคควรซื้อหาเนื้อหมูจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และพึงสังเกตราคาหมูที่ถูกผิดปกติก็ควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ หมูกระทะ ไม่ควรนำมาจำหน่ายให้ลูกค้า ตรงนี้เป็นจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมที่ทุกร้านควรจะมี ขณะที่หมูเถื่อนในภาคอีสานที่ลักลอบนำเข้ามาทางชายแดน หรือ ช่องทางธรรมชาติ กรมปศุสัตว์ ต้องกวดขันตรวจสอบและจับกุมให้เข้มข้นขึ้น”