นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมการอบรม E-commerce เศรษฐกิจทันสมัย เชื่อมการค้าโลกมุสลิมฮาลาล ที่ จ.ยะลา ว่า กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าต้องการให้คนรุ่นใหม่เป็นอนาคตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศและครอบครัว ซึ่งความฝันหนึ่งของคนรุ่นใหม่ยุคนี้คือการอยากทำค้าออนไลน์เป็น ที่เรียกว่า e-commerce ซึ่งในเวทีเอเปคมีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาหารือเพื่อขับเคลื่อน อี-คอมเมิร์ซ ที่สร้างความเป็นธรรมและนำไปสู่ความยั่งยืน
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้ประเทศและโลก ซึ่งการค้าออนไลน์ที่นับวันมีความสำคัญยิ่งขึ้น ตั้งแต่เจอสถานการณ์โควิด การค้าระบบออฟไลน์มีอุปสรรค แต่การค้าออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศทำได้ เช่น shopee bigbasket.comของอินเดีย Tmall ของจีน Alibaba ของจีน หรือ Amazon ของสหรัฐฯ เป็นต้น
ทั้งนี้กลุ่ม SME และ Micro SME ไม่ใช่ของคนตัวใหญ่แต่เป็นของคนตัวเล็กและตัวจิ๋ว ซึ่งเป็นนโยบายที่กระทรวงพาณิชย์และกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยากให้ผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวสามารถแข่งขันได้ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้าและความเชื่อมั่นของลูกค้าด้วย
“ ตลอด 3 ปีที่ตนเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปเปิดตลาดสินค้าไทยในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งขอความร่วมมือแพลตฟอร์มต่างๆ ตนไปเซ็นสัญญากับ Tmall ที่เซี่ยงไฮ้ประเทศจีนด้วยตนเอง และไปอินเดียที่เป็นตลาดใหญ่ฮาลาล และตนเพิ่งไปซาอุฯพาเอกชนไปขายของได้ 13,500 ล้านบาท นำเงินเข้าประเทศในอนาคต
ที่ตะวันออกกลางเรามีโอกาสขายสินค้าเยอะโดยเฉพาะสินค้าฮาลาล ขณะนี้สินค้าฮาลาลไทยได้รับความเชื่อถือมากขึ้นในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย สามารถส่งไก่ไปขายซาอุฯได้แล้ว และจากที่ขายทั้งตัว วันนี้รับชิ้นส่วนด้วยที่เป็นข่าวดีที่สุดคือไก่ต้มสุกเมื่อก่อนไม่รับ วันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมารับไก่ต้มสุกประเทศไทยแล้ว เพราะผลการเจรจาระดับประเทศ จนประสบความสำเร็จและเจรจาจนถึงเนื้อโคแพะ อาหารกระป๋อง อาหารทะเล และที่จีน มีอิสลามเยอะมากตนทำ mini-FTA กับมณฑลกานซู่ ที่อยู่ตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีมุสลิมเยอะมาก อนาคตเราสามารถส่งสินค้าฮาลาลไปขายมณฑลการซู่ได้”