ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการประกัน รายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 (ปี 4) เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2565 แล้วคณะอนุกรรม การฯ โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน ได้พิจารณา ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประกันรายได้ ปี 2565/66 (ปี 4) เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 จำนวน 6 งวด จาก 33 งวด ซึ่งหลักเกณฑ์ต่างๆ ในโครงการฯ ยังคงหลักการเช่นเดิม ล่าสุดมีความคืบหน้าแล้ว
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธ.ก.ส.) เปิดแผนสำหรับการจ่ายเงินประกันรายได้ข้าว เพื่อชดเชยส่วนต่างราคาข้าวในโครงการประกันรายได้เกษตรกร ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต2565/66 รอบที่1 (งวดที่1-6 ) รวมเกษตรกร 3.4 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 75% ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด ได้กำหนดจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรในวันที่ 24-28 พฤศจิกายน ดังนี้
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ภาคเหนือ
เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำพูน พิจิตร กำแพงเพชร ตาก อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565
ภาคเหนือ ลำปาง น่าน แพร่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุดรธานี ร้อยเอ็ด มหาสารคาม อุบลราชธานี
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2565
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอนแก่น สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา ยโสธร
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บึงกาฬ หนองบัวลำภู หนองคาย มุกดาหาร สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย อำนาจเจริญ
ภาคกลาง อยุธยา นนทบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท ปทุมธานี สระบุรี ลพบุรี
ภาคตะวันออก ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ ตราด
ภาคตะวันตก ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์
ภาคใต้ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส
การใช้ข้อมูลผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ให้ใช้ข้อมูลผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยวระดับประเทศ ของข้าวแต่ละชนิด เฉลี่ย 3 ปี ระหว่าง ปี 2562/63- 2564/65 ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อใช้ในการคำนวณปริมาณผลผลิตของเกษตรกรที่จะได้รับสิทธิในการชดเชย
การคำนวณปริมาณผลผลิตที่เกษตรกรจะได้รับสิทธิ
ให้คำนวณปริมาณผลผลิตของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อเป็นข้อมูลในการจ่ายเงินชดเชย จากพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร และผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยวระดับประเทศของข้าวแต่ละชนิด เฉลี่ย 3 ปี ดังนี้
โดยใช้พื้นที่ทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวแต่ละชนิดมาคูณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เป็นปริมาณผลผลิตที่ต้องชดเชย แต่ต้องไม่เกินปริมาณผลผลิตที่กำหนด ทั้งนี้ หากเกษตรกรเพาะปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิด ใช้สิทธิได้ไม่เกินจำนวนขั้นสูงของข้าวแต่ละชนิดและเมื่อรวมกันต้องไม่เกินขั้นสูงของชนิดข้าวที่กำหนดไว้สูงสุด
หลักเณฑ์การจ่ายเงินประกันรายได้ข้าว 2565/66
ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท รายละไม่เกิน 14 ตัน
ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท รายละไม่เกิน 16 ตัน
ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท รายละไม่เกิน 25 ตัน
ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท รายละไม่เกิน 30 ตัน
ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท รายละไม่เกิน 16 ตัน
ตรวจสอบเงิน “ประกันรายได้ข้าว” ด้วยเลขบัตรประชาชน มีดังนี้
คลิกไปที่เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com
กรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก
หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก จะมีรายละเอียดเปิดบัญชีจำนวนเงิน และ โครงการช่วยเหลือที่ได้รับ
เปิดวิธีการคำนวณการจ่ายเงินชดเชยประกันรายได้ข้าว 5 ชนิด
ธ.ก.ส. สาขาคำเจริญ ธ.ก.ส.สาขาคำเจริญ ขอประชาสัมพันธ์แผนการจ่ายเงิน โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/2566 ขอความร่วมมือโปรดใช้บริการตามวันและเวลาที่กำหนด เพื่อลดความแออัดและเพื่อความสะดวก
ธ.ก.ส. สาขาไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ เงินส่วนต่าง รอบที่ 1 งวดที่ 1-6 โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2565/66 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยว ภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 โอนเข้าบัญชีเกษตรกร วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565
จ่ายไร่ละ 1,000 บาท
ธกส.สาขาขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งข้อมูลการโอนเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66
#ครั้งที่_1 นัดโอนวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565
#ไร่ละพันมาแล้ว
เกษตรกรสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ https://chongkho.inbaac.com/
ธกส. สาขาบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก แจ้งโอนเป็นรายตำบล วันที่ 24-2 ธ.ค. 65
ธ.ก.ส. ฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนล่าง มาตรการช่วยเหลือชาวนา ปี 2565/66 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย พร้อมโอนเงิน เข้าบัญชีงวดแรก 24 พ.ย. นี้
ธ.ก.ส.สาขาทัพทัน จึงจัดสรรการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ปี 2565/66 เพื่ออำนวยความสะดวกและให้สอดคล้องกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมขอความร่วมมือมาตามวันเวลาที่กำหนด