วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และ นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ลงพื้นที่ตรวจราชการพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยได้มอบนโยบายและแนวทางพัฒนาการตรวจสอบย้อนกลับตลอด Supply Chain ทุเรียนส่งออกไปจีนการยกระดับมาตรฐานผลไม้ไทย ผลไม้คุณภาพ “Premium Thai Fruits” พร้อมกับมอบใบรับรองแหล่งผลิตพืช GAP พืช และเยี่ยมชมสวนทุเรียนที่ได้รับการรับรอง GAP และการแปรรูป (ทุเรียนแช่เยือกแข็ง) หลังจากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตรวจสอบคุณภาพและศัตรูพืชทุเรียนของเจ้าหน้าที่ในโรงคัดบรรจุผลไม้ศิริมงคล คอร์เปอเรทกรุ๊ปตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวีจังหวัดชุมพร
นายประยูร กล่าวว่า การส่งออกทุเรียนสดไทยไปจีนขณะนี้ไม่ได้มีไทยประเทศเดียวยังมีประเทศเวียดนาม และอาจมีประเทศอื่นๆ ในอนาคต ดังนั้นการทำงานในลักษณะบูรณาการระหว่างเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สมาคมผู้ประกอบการส่งออก และหน่วยงานทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันกำหนดทิศทางทุเรียนไทย สร้างความแตกต่าง จุดเด่นที่สำคัญคือมาตรฐานและคุณภาพของทุเรียนไทย ไม่ให้มีทุเรียนอ่อน หรือทุเรียนด้อยคุณภาพส่งออกไปยังประเทศผู้บริโภคเพื่อรักษาภาพลักษณ์และตลาดการส่งออกให้ยั่งยืน เป็น“ทุเรียนไทยดีที่สุดในโลก (Thai durian isthe best in the world)”
อีกทั้ง ต้องการให้การส่งออกทุเรียนสดไทยมีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร มีคุณภาพมาตรฐานของทุเรียนเป็นภาพลักษณ์โดดเด่น และยอมรับจากผู้บริโภคในประเทศจีนดังนั้น ผลผลิตจากสวนของเกษตรกร โรงรวบรวมและคัดบรรจุ การรับรองสุขอนามัยพืช ตลอดจนการขนส่งและการตรวจสอบย้อนกลับ ควรที่ทุกภาคส่วนต้องทำร่วมกัน โดยภารกิจติดตามมาตรการตรวจสอบคุณภาพและรับรองสุขอนามัยพืชสำหรับทุเรียนส่งออกไปจีนที่ได้มอบให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินการนั้น จำเป็นต้องเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมการส่งออกทุเรียนไทย
ด้านนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และ นางสาวมนัญญาไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรลงพื้นที่จ.ระยอง และจันทบุรีในระว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเร่งรัดติดตามการออกทะเบียน GAP รูปแบบใหม่ซึ่งจะแล้วเสร็จทั้ง 80,000 ฉบับสำหรับภาคตะวันออกในต้นเดือนธันวาคมนี้ และจะครบ 100 % ทั้งประเทศภายในกลางเดือนธันวาคมนี้แน่นอนขอให้เกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องไม่ต้องกังวล