ย้อนไปวันที่ 9-10 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ภาคใต้แหล่งผลิตปาล์มน้ำมันแหล่งใหญ่สุดของประเทศ เกิดความปั่นป่วนกระทบกับชาวสวนปาล์มอย่างหนัก จากโรงสกัดนํ้ามันปาล์มได้หยุดเทศกาลปีใหม่ และหยุดซ่อมบำรุงและทำความสะอาดเครื่องจักรหลายโรง
ส่งผลลานเทปาล์มหลายแห่งหยุดรับซื้อ ส่วนลานเทที่เปิดระบุรองรับปริมาณไม่ไหว จากเกษตรกรต่อคิวขายกันยาวข้ามวันข้ามคืน ส่งผลให้ราคาผลปาล์มลดลงเฉลี่ย 20-30 สตางค์ต่อกิโลกรัม (กก.) อยู่ที่ 4.60-4.80 บาทต่อ กก. ณ ปัจจุบัน และมีปัญหาร้องเรียนตามมามากมาย
นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง จำกัด (บจก.) และอนุกรรมการ ในคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลนํ้ามันปาล์ม ในส่วนผู้แทนคลังรับฝากนํ้ามันปาล์ม เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลนํ้ามันปาล์ม ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรเลยว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น สันนิษฐานว่าช่วงปีใหม่โรงสกัดปิดกันมาก พอเปิดมาชาวสวนก็เร่งตัดผลปาล์มขาย ซึ่งความจริงยังไม่ใช่ฤดูกาลที่ผลผลิตปาล์มออกมาก ส่วนราคาปาล์มที่ปรับตัวลดลง มองว่าเป็นผลพวงจากราคาต่างประเทศต่ำและลดลงต่อเนื่อง
“ปัจจัยในประเทศ เมื่อเกิดสถานการณ์โอเวอร์ซัพพลายช่วงสั้นๆ โรงสกัดก็กลัวเจ็บตัว และหยุดซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์ บวกกับเงินบาทที่แข็งค่าเร็ว จากเคยอ่อนค่าลงไปถึง 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เวลานี้แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้สินค้าส่งออกจากไทยราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ดีในส่วนของอินโดนีเซียมีการเพิ่มไบโอดีเซล เป็น บี35 ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้สต๊อกลดลง คาดราคาน่าจะมีแนวโน้มขยับขึ้น หากผลผลิตใหม่ในประเทศไม่ออกมาก คาด 1-2 สัปดาห์ราคาจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ”
ด้านนายมานิต วงษ์สุรีย์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรังนํ้ามันปาล์ม จำกัด ในฐานะนายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงงานสกัดนํ้ามันปาล์มแห่งประเทศไทย กล่าวสั้นๆ ว่าโรงสกัดนํ้ามันปาล์มยังรับซื้อปกติ
ขณะที่แหล่งข่าวจากกรมการค้าภายใน(คน.) กระทรวงพาณิชย์ เผยถึง ประมาณการสมดุลนํ้ามันปาล์ม เดือนมกราคม 2566 อยู่ที่ 2.8 แสนตัน โดยพิจารณาจากปริมาณผลปาล์มนํ้ามันที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดการณ์จำนวน 9.73 แสนตัน ลดจากเดือนธันวาคมที่คาดมีผลผลิต 1 ล้านตัน (ดูกราฟิกประกอบ) คิดเป็นนํ้ามันปาล์มดิบ (อัตรานํ้ามัน 18%) อยู่ที่ 1.75 แสนตัน
ส่วนสต๊อกนํ้ามันปาล์มดิบเดือนธันวาคม 2565 จากการตรวจสอบของคณะทำงานตรวจสอบสต๊อกนํ้ามันปาล์มดิบคงเหลือทั้งระบบระดับจังหวัด วันที่ 26-28 ธันวาคม 2565 มีจำนวน 3.36 แสนตัน และประมาณการความต้องการใช้ในประเทศ (บริโภค อุตสาหกรรม พลังงาน) จำนวน 2.06 แสนตัน ส่วนการส่งออกนํ้ามันปาล์มดิบเดือนมกราคมผู้ประกอบการแจ้งมีจำนวน 2.5 หมื่นตัน
สำหรับการแก้ปัญหาปาล์มโอเวอร์ซัพพลายนั้น ผู้แทนจากสมาคมโรงกลั่นนํ้ามันปาล์ม มีข้อคิดเห็นให้ผลักดันการส่งออก รวมถึงการเพิ่มความต้องการใช้นํ้ามันปาล์มในประเทศทางด้านพลังงาน โดยปรับเพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล (บี100) ในนํ้ามันดีเซลหมุนเร็ว ในกรณีหากไม่สามารถส่งออกนํ้ามันปาล์มได้ และการปรับเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในนํ้ามันดีเซลหมุนเร็ว เป็นบี10 จะสามารถเพิ่มความต้องการใช้นํ้ามันปาล์มได้อีก 3 หมื่นตันต่อเดือน
ผู้แทนกระทรวงพลังงานให้ความเห็นว่า ในการผลักดันการส่งออกจะใช้งบประมาณน้อยกว่าการปรับเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซล (บี100)ในนํ้ามันดีเซลหมุนเร็ว และกองทุนนํ้ามันเชื้อเพลิงยังมีภาระหนี้สิน และการผสมไบโอดีเซลในนํ้ามันดีเซลหมุนเร็ว เป็นบี7 ถึงเดือนมีนาคม 2566 (คลิกอ่าน) โดยขณะนี้ ราคานํ้ามันดีเซล (บี0) มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอยู่ที่ 25.60 บาทต่อลิตร และราคานํ้ามันดีเซลบี7 หน้าสถานีบริการ อยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตร
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ ประกาศราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมัน ณ โรงสกัดน้ำมันปาล์มจังหวัดกระบี่ ประจำวันที่ 15 มกราคม 2566
Asian Palm Oil Company แจ้งหยุดรับซื้อปาล์ม ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม - 15 ก.พ. เพื่อซ่อมบำรุงสายการผลิตประจำปี 2566 จะกลับมารับซื้อผลปาล์มใหม่ วันที่ 16 ก.พ.