จ่อชงครม. ไฟเขียวประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน 2565/66

17 ม.ค. 2566 | 10:38 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ม.ค. 2566 | 17:57 น.

ครม.รับทราบ 6 มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรปาล์มน้ำมัน พร้อมดันประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน ปี 2565/66 เตรียมชงครม. ไฟเขียว และยังเห็นชอบเปิดตลาดน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม 3 ปี

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้เปิดตลาดน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มและบริหารการนำเข้าคราวละ 3 ปี (ปี 2566-2568) และรับทราบมติของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ 3/2565

โดยสาระสำคัญของการประชุม กนป. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ที่ประชุมได้มีมติสำคัญ 6 เรื่อง ดังนี้

1. การกำหนดมาตรฐานการรับซื้อผลปาล์ม

2. โครงการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์มเพื่อบริหารจัดการและควบคุมสต็อกน้ำมันปาล์ม

3. การเปิดตลาดน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มและบริหารการนำเข้าคราวละ 3 ปี (ปี 2566-2568)

4. การขอขยายระยะเวลาโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 2565 (อยู่ระหว่างรอความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบ)

5. โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2565-2566 และมาตรการคู่ขนาน ปี 2566 (อยู่ระหว่างรอความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบ)

6. การสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

ส่วนการเปิดตลาดน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มและบริหารการนำเข้าคราวละ 3 ปี (ปี 2566-2568) กำหนดเงื่อนไขเป็นไปตามข้อผูกพันของทุกกรอบการค้า และให้ องค์การคลังสินค้า เป็นผู้นำเข้าและกระจายสินค้าให้ผู้ผลิตภายในประเทศตามที่สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มเป็นผู้จัดสรร ดังนี้

ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ความตกลงการค้าเสรีไทย - ชิลี (TCFTA) ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน - ญี่ปุ่น (AJCEP) (เฉพาะน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม) เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โดยให้มีการบริหารการนำเข้าเช่นเดียวกับความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) 

โดยยกเว้นความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (Thailand – Australia Free Trade Agreement : TAFTA) และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นไทย - นิวซีแลนด์ (Thailand – New Zealand Closer Economic Partnership : TNZCEP) ที่ไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าและปฏิบัติตามมาตรการการบริหารการนำเข้าด้วย