ความคืบหน้าการโอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2565/66 หรือ “ประกันรายได้ข้าว” กรอบวงเงิน 18,337.50 ล้านบาท จาก มติ ครม. 15 พ.ย. ล่าสุดทาง กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เคาะราคามาถึง งวดที่ 15 แล้วนั้น เกษตรกร ชาวนา สามารถ เช็ก ผ่าน ลิงค์ ธ.ก.ส. https://chongkho.inbaac.com ยังโอนต่อเนื่อง
วันที่ 20 มกราคม 2566 3 สมาคมชาวนา ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย ,นายวิชัย ชิตยวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมชาวนาไทย และนายธีร์วริศ พรพันธวิศ นายกสมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน ก็เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว อย่างพร้อมเพรียง ผลการเคาะราคาะ "ประกันรายได้ข้าว" งวดที่ 15 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 14 - 20 ม.ค. 66 ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้
• ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว
• ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 385.12 บาท
• ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาสูงกว่าเป้าหมาย
• ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ ราคาสูงกว่าเป้าหมาย
• ข้าวเปลือกเหนียว ราคาสูงกว่าเป้าหมาย
นายธีร์วริศ กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงที่ค านวณได้ในงวดที่ 14 – 15 แล้ว พบว่า ราคาข้าวเปลือกทุกชนิด
ปรับตัวสูงขึ้น
อ้างอิงประกาศ "ประกันรายได้ข้าว" งวดที่ 15
ตรวจสอบสถานะขั้นตอน-ช่องทางตรวจสอบเงิน ดังนี้
1. เข้าสู่เว็บไซต์ (คลิก) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
2. กรอกเลขประจำตัวประชาชน เพื่อใช้ในการเช็คเงินเกษตรกร การเช็คเงินเกษตรกร 2565 เข้าหรือยัง สามารถทราบผลได้ทันที หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชน โดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
3. ตรวจสอบข้อมูลในแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านคน
ทั้งนี้ เกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2565/66 กับกรมส่งเสริมการเกษตรและต้องแจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวเพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วงเวลาที่เกษตรกรจะได้รับสิทธิชดเชย
โดยกรมส่งเสริมการเกษตร จะจัดส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำแนกตามช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยวและคำนวณปริมาณผลผลิต โดยใช้พื้นที่ทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวแต่ละชนิดคูณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เป็นปริมาณผลผลิตที่ต้องชดเชยส่งให้กับ ธ.ก.ส. เพื่อประมวลผลและดำเนินการจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วัน นับจากวันที่ได้รับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในแต่ละรอบจากคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว
ขอย้ำอีกครั้ง เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางสู่เว็บไซต์ (คลิก) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ แอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile และ A-Mobile Plus ตลอด 24 ชั่วโมงและจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family
กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ สำหรับเกษตรกรที่มีข้อสอบถามเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ
ด้าน สมาคมโรงสีข้าวไทย รายงาน สถานการณ์ข้าว ผ่านเฟซบุ๊ค Thai Rice Mill Association ราคาข้าวเปลือก/ข้าวสาร ประจำวัน ศุกร์ ที่ 20 มกราคม 2566