วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจ่ายเงินโครงการประกันรายได้ข้าว สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 4 โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 17 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 28 ม.ค. - 3 ก.พ.66 ดังนี้
1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว
2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 13,658.81 บาท ชดเชยตันละ 341.19 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,459.04 บาท
3.ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 11,150.26 บาท ไม่ต้องชดเชยเนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าเป้าหมาย
4.ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 10,040.01 บาท ไม่ต้องชดเชยเนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าเป้าหมาย
5.ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,555.44 บาท ไม่ต้องชดเชยเนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าเป้าหมาย
ทั้งนี้ ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกันรายได้เกือบทุกชนิดข้าว โดย ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 8 ก.พ. 2566 มีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 4,678 ครัวเรือน
นายจุรินทร์ กล่าวว่า นโยบายสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกร ขณะนี้ตนได้ลงนามเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้วคือ ประกันรายได้ข้าว ปี 4 มีทั้งหมด 33 งวด ขณะนี้จ่ายเงินส่วนต่างแล้ว 16 งวด และโครงการประกันรายได้ มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ได้ลงนามเสนอคณะรัฐมนตรีแล้ว
ส่วนยางพาราได้ผ่านความเห็นชอบที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบดำเนินการเสนอประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางปี 4 เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเห็นชอบวงเงินเบื้องต้นประมาณ 7,600 ล้านบาท
ทั้งยังเห็นชอบสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินหมุนเวียนให้กับผู้ประกอบการกิจการไม้พาราและผลิตภัณฑ์ในวงเงิน 20,000 ล้านบาทในช่วงปี 66-67 เมื่อผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วจะได้ดำเนินการโอนเงินส่วนต่างถึงมือเกษตรกรชาวสวนยางต่อไปโดยเร็วที่สุด