ตามที่กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย ได้ออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การใช้ ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ซึ่งในบัญชีแนบท้ายประกาศ กำหนดชนิดพืช “ยางพารา” มีอัตราขั้นต่ำของการประกอบการเกษตรต่อไร่ไว้ 80 ต้นต่อไร่ ถึงจะเสียภาษีในอัตราไม่เกินร้อยละ 0.15 ของฐานภาษี (อัตราต่ำสุด) ความหมายคือถ้าเกษตรกร ปลูกยางต่ำกว่าไร่ละ 80 ต้น ก็ต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่าคืออัตรา ไม่เกินร้อยละ 1.2 ของฐานภาษี
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ข้อเท็จจริงการปลูกยาง โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 65 ต้นต่อไร่และจนถึงระยะเวลาที่ได้ผลผลิต 7 ปีจะมีต้นยางตายหรือเสียสภาพเหลือเพียง 50 ต้นต่อไร่ซึ่งตามพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ได้กำหนดคำจำกัดความ “สวนยาง” โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 25 ต้นต่อไร่ ที่ผ่านมาทางสมาคมฯ จึงได้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายางธรรมชาติ (กนย.) ขอให้มีมติให้ กระทรวงการคลัง และ กระทรวงมหาดไทย ได้ทบทวนปรับจำนวนต้นของ “ยางพารา” ขั้นต่ำจาก 80 ต้นต่อไร่ เป็น 25 ต้นต่อไร่ ตามที่เสนอข้างต้น
“ปรากฏว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามในประกาศ กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยเรื่องหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ฉบับที่ 2 แล้ว ลงวันที่ 31 มกราคม 2566 ซึ่งกำหนดให้ยกเลิกบัญชีแนบท้าย ก ของประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย ฉบับลงวันที่ 30 มกราคม 2562 และให้ใช้บัญชีแนบท้ายก.ตามประกาศฉบับลงวันที่ 31 มกราคม 2566 แทน ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
นายอุทัย กล่าวว่า สำหรับพืช“ยางพารา” ยังมิได้มีการพิจารณาปรับอัตราขั้นต่ำการประกอบการเกษตรต่อไร่ ยังคงใช้อัตราเดิมคือ 80 ต้นต่อไร่ ดังนั้น สมาคมฯจึงขอยืนยันให้ปรับอัตราขั้นต่ำของการประกอบการเกษตรพืชยางพาราเป็น 25 ต้นต่อไร่ด้วยเหตุและผล ตามที่เสนอข้างต้น
สอดคล้องกับนายจิตติน วิเศษสมบัติ อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กยท. (สร.กยท.) กล่าวว่า สวนยาง ในเมืองไทย ที่ขึ้นทะเบียน ไว้ 20 กว่า ล้านไร่ มีที่ไหนบ้างที่ปลูกยางเพื่อกรีด ถึง 80 ต้น/ไร่ ถ้ามีช่วยพาไปดูหน่อย เพราะอยู่ในสวนยางมาเกิน 60 ปี และเดินทางไปดูสวนยางมาทั่วประเทศไทย ก็ยังไม่เจอว่า ใครปลูกต้นยางพารา เกิน 80ต้น/ไร่
"สวนยางพารา ปลูกระยะ 3x7 เมตร จะ ได้เพียง 76 ต้น ต่อไร่ และมากกว่า 99 % ของชาวสวนยางจะปลูกในระยะนี้ สำหรับพื้นที่ราบ และเมื่อปลูกอายุยางได้ 3 ปีขึ้นไป ก็จะเหลือ เพียง 60 กว่าต้น /ไร่ และเป็นตัวเลขที่ให้ผลประโยชน์สูงสุดแล้ว ดังนั้นเห็นว่าอัตราการเก็บ ถ้าตรวจแล้ว เกิด 80ต้น/ไร่ เก็บภาษี 0.15 % ของฐานภาษี แต่ถ้าไม่ถึงก็ปรับมาเก็บ 1.2 % ของฐานภาษี อยากให้บอร์ด กยท.ที่เพิ่งแต่งตั้งมาจาก ครม. ช่วยชี้แจงให้กับกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยให้เว้นภาษี ไม่งั้นชาวสวนยางมาโดนเก็บซ้ำซากทั้งที่ราคายางตกต่ำ 1.โดนเก็บเซสส์ กิโลกรัมละ 2 บาท (คลิกอ่าน) นำมาเป็นค่าใช้จ่ายบริหาร บอร์ด -พนักงาน เจ้าหน้าที่ กยท. ทั้งประเทศ แล้ว 2.จะต้องมาโดนเก็บภาษีจากอีก 2 หน่วยงานซ้ำเติมเข้าไปอีก ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่คน กยท.จะต้องลุกปกป้องชาวสวนบ้าง"