ไม่จ่ายส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าวโพดสัตว์เลี้ยง งวด6

21 เม.ย. 2566 | 06:55 น.
อัพเดตล่าสุด :21 เม.ย. 2566 | 07:00 น.

ประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ งวดที่ 6 ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปรับตัวลดลง แต่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง  “พาณิชย์”แจ้งไม่จ่ายส่วนต่าง

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/66 (งวดที่ 6) โดยเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 เป็นการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงงวดที่ 6

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน

สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ถึงวันที่ 19 เมษายน 2566 ปรากฏว่ามีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงของงวดที่ 6 กก.ละ 11.90 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าราคาประกันที่ กก.ละ 8.50 บาท จึงไม่มีส่วนต่างชดเชยให้แก่เกษตรกร

 

ทั้งนี้ ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงฯ งวดนี้ ต่ำกว่าราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในงวดที่ 5 ของโครงการฯ ปี 2565/66 (กก.ละ 12.33 บาท) ที่ผ่านมา แต่สูงกว่าราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในงวดที่ 6 ของโครงการฯ ปี 2564/65 (กก.ละ 11.56 บาท)

ไม่จ่ายส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าวโพดสัตว์เลี้ยง งวด6

สำหรับสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในตลาดต่างประเทศ ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโลก ปีการผลิต 2565/66 ณ เดือนเมษายน 2566 มีปริมาณรวม 1,144.50 ล้านตัน ลดลงจากปริมาณที่คาดการณ์ไว้ ณ เดือนมีนาคม 2566 ที่มีปริมาณ 1,147.52 ล้านตัน หรือลดลง 0.26%. เนื่องจากปริมาณผลผลิตในอาร์เจนตินาและสหภาพยุโรปลดลงมากกว่าผลผลิตที่เพิ่มขึ้นของรัสเซีย

โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 ราคาเสนอซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในสหรัฐอยู่ที่ 298 ดอลลาร์/ตัน (เพิ่มขึ้น 11 ดอลลาร์/ตัน) ขณะที่ราคาเสนอซื้อสำหรับบราซิลและยูเครนลดลงเล็กน้อย ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของผู้แทนสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ที่คาดการณ์ว่าราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงพืชทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เช่น ข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ อาจจะปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จะมีการพิจารณากำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการฯ เป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง รวม 12 งวด จนถึงระยะเวลาสิ้นสุดการรับสิทธิ์ชดเชยตามโครงการฯ วันที่ 20 ตุลาคม 2566 สำหรับเกษตรกรที่มีวันเพาะปลูกตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 – 31 พฤษภาคม 2566