นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า อินโดนีเซียเตรียมจัดการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ครั้งที่ 22 ในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นการประชุมระดับรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เพื่อสรุปความคืบหน้าการดำเนินงานของเสาเศรษฐกิจในครึ่งปีแรก เสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคมนี้
โดยการประชุมครั้งนี้ มีหลายประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนข้อริเริ่มด้านความยั่งยืนให้บรรลุผล
โดยเฉพาะการสร้างสภาพแวดล้อมของอาเซียนให้รองรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจะเสนอให้ผู้นำอาเซียนรับรองปฏิญญาด้านการพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนผ่านภูมิภาคไปสู่การใช้พลังงานที่ยั่งยืน และลดการปล่อยคาร์บอนในภาคการขนส่ง
โดยส่งเสริมการใช้ EV แทนรถยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการผลิตในอุตสาหกรรม EV ระดับโลก ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อธุรกิจและการลงทุนในภูมิภาค โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โครงข่ายกระแสไฟฟ้า สถานีชาร์จไฟฟ้า แบตเตอรี่ การปรับประสานมาตรฐานระดับภูมิภาค การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยี นวัตกรรม และการอำนวยความสะดวกทางการค้า
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะพิจารณาประเด็นการดำเนินการตามข้อสั่งการของผู้นำอาเซียน เรื่องการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของติมอร์-เลสเต โดยจะพิจารณารับรองเอกสารสำคัญ 2 ฉบับ ได้แก่ กฎและระเบียบสำหรับการเข้าร่วมการประชุมต่างๆ ในเสาเศรษฐกิจอาเซียนของติมอร์ฯ ฐานะสมาชิกสังเกตการณ์ และร่างภาคผนวกประกอบแผนการดำเนินงาน สำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเต็มตัวของติมอร์ฯ ในส่วนของเสาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะรายการความตกลงด้านเศรษฐกิจ เพื่อจะนำไปรวมเป็นแผนการดำเนินงาน (Roadmap) ฉบับสมบูรณ์ ที่มีภาคผนวกของทั้งสามเสาประชาคมอาเซียน ก่อนเสนอให้ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42 ให้การรับรองต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ. 2566) การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 19,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 10,560 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 8,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์