“เรด ล็อบสเตอร์”ฟื้นชีพ “ไทยยูเนี่ยน” Q1 กำไรสุทธิ 1,022 ล้าน

03 พ.ค. 2566 | 06:31 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ค. 2566 | 06:56 น.

ไทยยูเนี่ยนฯ รายงานผลดำเนินงานไตรมาสแรกปี 66 กำไรสุทธิ 1,022 ล้าน ผลพวง “เรด ล็อบสเตอร์”พลิกฟื้นทำกำไร ขณะยอดขายรวม 3.2 หมื่นล้าน ลดลง 10% จากความต้องการสินค้าทั่วโลกลดลง และยังคงมีสต๊อกระดับสูง คาดครึ่งหลังปรับตัวดีขึ้น

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก ปี 2566 ระบุ หลังจากบริษัทฯได้เร่งแผนพลิกฟื้นธุรกิจให้กับเรด ล็อบสเตอร์ ธุรกิจร้านอาหารทะเลระดับโลก ทำให้เรด ล็อบสเตอร์ กลับมามีสัญญาณบวก โดยบริษัทฯได้รับส่วนแบ่งผลกำไร 121 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับส่วนแบ่งขาดทุนจำนวน 243 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2565

จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนมีกำไรสุทธิในไตรมาสแรก 1,022 ล้านบาท ลดลง 41.5%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,746 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการที่รายงานการเงินในปี 2566 นี้ มี 2 รายการที่ไม่สามารถเทียบได้ที่ถูกบันทึกในปี 2565 ได้แก่

- การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมจากหุ้นบุริมสิทธิ เรด ล็อบสเตอร์ จำนวน 239 ล้านบาท (หลังหักภาษี) ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากหุ้นบุริมสิทธิดังกล่าวเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูง 

- ส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากไอ-เทล คอร์ปอเรชั่นจำนวน 200 ล้านบาท เนื่องจากไอ-เทลได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ทำให้สัดส่วนหุ้นที่ไทยยูเนี่ยนถือครองมีจำนวนลดลงจาก 99.5% เหลือ 77.8%

ดังนั้น หากเปรียบเทียบกำไรสุทธิไตรมาสแรกของปีนี้กับปีที่แล้วที่ไม่นับรวมสองรายการนี้ กำไรสุทธิจะลดลง 21.8%

“เรด ล็อบสเตอร์”ฟื้นชีพ “ไทยยูเนี่ยน” Q1 กำไรสุทธิ 1,022 ล้าน

สำหรับยอดขายรวมของไทยยูเนี่ยนฯ ในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 32,652 ล้านบาท ลดลง 10.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ยอดขายมีความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของบริษัท สาเหตุจากความต้องการสินค้าปรับตัวลงทั่วโลกจากการที่คู่ค้าในภูมิภาคต่าง ๆ มีปริมาณสินค้าคงคลังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นทำให้การสั่งซื้อสินค้าชะลอตัวลง

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้คาดการณ์ไว้ว่าไตรมาสแรกของปีนี้จะเป็นไตรมาสอ่อนตัวที่สุด ผลสืบเนื่องจากยอดขายอยู่ในอัตราที่สูงในปีที่ผ่านมา สินค้าคงคลังของลูกค้าอยู่ในระดับที่สูง และสถานการณ์ค่าขนส่งปรับตัวสู่ภาวะปกติ 

ทั้งนี้ในรายละเอียดของยอดขายไตรมาสแรกปี 2566 ในธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นมียอดขายอยู่ที่ระดับ 11,684 ล้านบาท ลดลง 15.3% จากการปรับตัวของราคาอาหารทะเลในตลาดสู่ภาวะปกติและยอดขายในปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูง  สำหรับธุรกิจสินค้ามูลค่าเพิ่มและธุรกิจอื่นๆ มียอดขายอยู่ที่ 2,248 ล้านบาท ลดลง 9.5% แต่ยังสามารถคงอัตรากำไรขั้นต้นได้แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 27.3%

ธีรพงศ์  จันศิริ

ไทยยูเนี่ยนยังได้เปิดตัวสินค้าใหม่ที่พัฒนาด้วยนวัตกรรมของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดผู้บริโภคในวงกว้างขึ้น อาทิ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทูน่าจากพืช ภายใต้แบรนด์ จอห์น เวสต์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ และ เรด ล็อบสเตอร์ ได้เปิดตัวสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งเป็นครั้งแรก ซึ่งมีวางจำหน่ายในร้านค้ากว่า 5 พันแห่งและออนไลน์ทั่วสหรัฐอเมริกา

ส่วนยอดขายจากตลาดต่าง ๆ ทั่วโลกในไตรมาสแรก ไทยยูเนี่ยนฯมีสัดส่วนยอดขายตามภูมิภาค ดังนี้ สหรัฐอเมริกาและแคนาดาอยู่ที่ 43% ยุโรป 26% ประเทศไทย 12% และภูมิภาคอื่น ๆ 19%

ขณะที่ในไตรมาสแรก ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทได้ลดลง 12.1%  เหลือ 4,121 ล้านบาท จากการที่ค่าใช้จ่ายในการขนส่งปรับตัวดีขึ้นเข้าสู่สภาวะปกติ

“เรด ล็อบสเตอร์”ฟื้นชีพ “ไทยยูเนี่ยน” Q1 กำไรสุทธิ 1,022 ล้าน

“ผลจากการที่ตลาดทั่วโลกมีสินค้าคงคลังอยู่ในปริมาณที่สูงและราคาปลาที่สูงทำให้ความต้องการสินค้าต่างๆ ปรับตัวลง รวมถึงยอดขายในไตรมาสแรกของธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องของไทยยูเนี่ยนที่ลดลง 1.9% อยู่ที่ระดับ 15,225 ล้านบาท และยอดขายของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงลดลง 21.9% อยู่ที่ระดับ 3,495 ล้านบาท  ซึ่งบริษัทคาดว่าความต้องการสินค้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์สินค้าคงคลังที่มีอยู่มากได้ค่อยๆ คลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตามยังมองว่าปี 2566 สามารถกลับมามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเริ่มมีสัญญาณที่เป็นบวกในไตรมาสที่ 2 และคาดว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะกลับสู่สภาวะปกติในช่วงครึ่งหลังของปี จากกระแสการบริโภคอาหารทะเลและโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก

นายธีรพงศ์กล่าวอีกว่า ไทยยูเนี่ยนยังคงลงทุนในโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุน 6-6.5 พันล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจในทุกประเภท มีการก่อสร้างโรงงาน 3 แห่งในจังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ โรงงานผลิตอาหารพร้อมทาน ติ่มซำและสินค้าเบเกอรี่  โรงงานผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสตและคอลลาเจน เป็ปไทด์ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกและขนมทานเล่นที่มีไลน์การบรรจุหีบห่อแบบอัตโนมัติ และห้องเย็นอีกหนึ่งแห่งในประเทศกานา