ศุลกากรตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ภายใน เซ่นปมนำเข้าหมูเถื่อน

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกรณีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องช่วยในการออกเอกสาร เพื่อให้เนื้อหมูเถื่อนเข้ามาได้นั้น กรมศุลกากรได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายในกรมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยมีระยะเวลาในการดำเนินการ 30 วัน 

ขณะเดียวกันก็ได้มีการรวบรวมสำนวนทั้งหมดที่เป็นคดีอยู่ในขั้นศุลกากรส่งตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อสอบสวนหาสาเหตุว่าเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเกี่ยวข้องหรือไม่

“มีการสอบข้อเท็จจริงว่านำเข้ามาได้อย่างไร ใครเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งการนำเข้าครั้งนี้ไม่ได้เป็นการสำแดงสินค้าผิด แต่เป็นการสำแดงไม่ละเอียด หากตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว จะมีผลย้อนหลังไปถึงเจ้าหน้าที่ และทุกคนที่มีส่วนร่วมในการกระทำผิด”

ทั้งนี้ กรณีการนำเข้าหมูเถื่อนนั้น เนื่องจากเป็นระบบการขนส่งสินค้าประเภทที่ต้องรักษาอุณภูมิ หรือสินค้าเฉพาะทาง ปกติจะต้องมีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นซากพืช ซากสัตว์ พืช และอื่นๆ ฉะนั้น เมื่อมีใบอนุญาตขนส่ง และเป็นผู้ประกอบการทั่วไปที่มีการส่งออก นำเข้าอยู่บ้าง แต่มีจุดอ่อนอยู่ที่ สำแดงเป็นสินค้าแช่แข็ง เมื่อเอกซเรย์ภาพจะเห็นเป็นสินค้าแช่แข็ง จะต้องเปิดดูเท่านั้น

โดยการเปิดดูสินค้าที่ท่าเรือ มีการเปิดร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่มีใบอนุญาต เช่น ประมง ประศุสัตว์ เป็นต้น ไม่ได้ดำเนินการเฉพาะศุลกากรแห่งเดียว และหากเข้าไปสำรวจพบว่าเป็นสินค้าปกติตามที่สำแดงไว้ จึงจะมีการปล่อยให้นำเข้ามา ส่วนกรณีที่อายัดของที่แหลมฉบังนั้น เพราะว่า ศุลกากรพบตัวเลขนำเข้าสินค้าบางประเภทผิดปกติ

“หน่วยงานเป็นผู้ออกใบอนุญาตอาจจะเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม แต่ศุลกากรตรวจสอบพบ จึงมีการอายัดไว้ และให้มาสำแดงต่อไป หากผู้ประกอบการไม่มาสำแดง ก็เป็นของกลาง จนของตกเป็นของแผ่นดิน และกรมก็จะส่งมอบของเพื่อไปทำลาย ซึ่งปัจจุบันกรมก็ได้ทำหนังสือเร่งรัดไปที่กรมปศุสัตว์เพื่อให้ทำลายของกลางดังกล่าวแล้ว”