นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ (22 ก.ย. 2566)ได้มีการประชุมหารือแนวทางมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีข้อสั่งการเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 โดยมอบหมายให้กรมการค้าภายในหารือร่วมกับกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาก่อนผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ และให้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ(นบข.)นั้น
ทั้งนี้ในที่ประชุมที่มี นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบใน 4 มาตรการที่ยังคงเดิม พ่วงมาตรการใหม่ ที่ช่วยชาวนา 4.6 ล้านครัวเรือน ได้แก่ 1.โครงการสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2566/67 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว โดยไม่ต้องเร่งขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและได้ราคาต่ำกว่าตลาด โดยไม่คิดดอกเบี้ยกับเกษตรกร นอกจากนี้ จะช่วยเหลือค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือก 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางตัวเอง
2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2566/67 สำหรับสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชนที่ประกอบธุรกิจรวบรวมข้าวจากเกษตรกรสมาชิก เกษตรกรทั่วไป กำหนดวงเงินกู้สำหรับสหกรณ์การเกษตร แห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรแห่งละ ไม่เกิน 20 ล้านบาท และวิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งคิดจากสถาบันฯ เพียง 1% ต่อปี ระยะเวลาการจ่ายสินเชื่อ
3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการดูดซับผลผลิตไว้ในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 - 6 เดือน โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารของรัฐที่ผู้ประกอบการค้าข้าวเป็นลูกค้าอยู่ รวมทั้งผู้ประกอบการที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ แต่ได้ซื้อข้าวเก็บสต๊อก ก็จะจ่ายค่าบริหารจัดการให้ตันละ 150 บาท เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เก็บข้าว
4.โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 หรือ "เงินไร่ละ 1,000 บาท" โดยสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีการผลิต 2566/67 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน
อย่างไรก็ตามนายปราโมทย์ กล่าวว่า ขอแจ้งข่าวให้ชาวนาทั้งประเทศ 4.6 ล้านครัวเรือน ในนามสมาคมชาวนาฯ ต้องขอขอบคุณ อธิบดีกรมการค้าภายในผ่านไปยังรัฐบาล ที่ยังคงมีนโยบายบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ก็ขอให้ไปอัพเดททะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อร่วมโครงการเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับนายธีร์วริศ พรพันธวิศ นายกสมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน และ นายวิชัย ชิตยะวงษ์ นายกสมาคมส่งเสริมชาวนาไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณภาครัฐที่ยังคงมีแนวนโยบายเดิม แต่ว่าปีนี้ไม่มีโครงการ "ประกันรายได้ข้าว” แล้ว จึงเห็นว่าควรจะนำเงินที่ไม่ได้ใช้ในโครงการนี้ นำมาเพิ่มจาก ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ เป็นเงิน 2,000 บาทไม่เกิน 20 ไร่ และขอสนับสนุนโครงการสินเชื่อชะลอการเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางครอบครัวละไม่เกิน 4 แสนบาท
อย่างไรก็ดีในส่วนนี้กรมการค้าภายในจะนำข้อเสนอของชาวนานั้นรับไว้และส่งให้กับนายกรัฐมนตรี ที่จะมีการประชุม นบข. เร็ว ๆ นี้