ถกยุทธศาสตร์เกษตร นัดแรก ลั่น! เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าใน 4 ปี

นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ว่า วันที่ 18 มกราคม 2567ได้มีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรก ทั้งนี้ได้พบปัญหาอุปสรรคในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายของกระทรวงฯ ในหลายประเด็น ซึ่งได้รับมาพิจารณาเพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่อไป ส่วนประเด็นสำคัญที่อยากจะให้สื่อสารไปยังประชาชนก็คือเรื่อง "โฉนดเพื่อการเกษตร"

"ตอนนี้การแจกโฉนดทางการเกษตรอาจจะช้านิดหนึ่ง โดยได้แจกไปบางส่วน ซึ่งคิดว่าจะออก “ใบเหลือง” ซึ่งเป็นใบทดแทน คล้ายกับบัตรประชาชน โดยทางนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้มาชี้แจงให้เห็นว่าสามารถใช้ประโยชน์ได้เหมือนกันในการเข้าถึงแหล่งทุน และกำลังประสานกับส่วนราชการในเรื่องการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันตัวผู้ต้องหา โดยหลักก็คือเพิ่มสิทธิในการครอบครอง แต่พื้นที่ดินก็ยังเป็นของราชการ  และมีต้องมีการถือครอง 2 ปี ค่อยเปลี่ยนมือได้ ซึ่งจะค่อย ๆ ประชาสัมพันธ์ออกไปเพื่อให้พี่น้องเกษตรกรที่อยู่พื้นที่ ส.ป.ก.ในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจในนโยบายของรัฐบาล ผ่านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์"

สอดคล้องนายธนสาร ธรรมสอน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในฐานะรองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการบูรณาการที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้การบริหารจัดการกระทรวงในเรื่องการมีส่วนร่วม โดยเชิญภาคเอกชน อดีตผู้บริหารกระทรวง อธิการบดี นักวิชาการ และอื่น ๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อพิจารณายุทธศาสตร์ชาติด้านการเกษตรว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งในวันนี้ทางกระทรวงก็ได้มีการนำเสนอด้านการเกษตร รวมถึงนโยบายของรัฐบาลที่จะเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่า ใน 4 ปี ภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ว่าจะเข้ามาเสริม มาปรับเปลี่ยนโครงการ หรือแผนงานของกระทรวงเกษตรอย่างไร

"ในที่ประชุมได้ให้มีการทบทวนแผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2566-2570 จากเดิมมีรายได้เงินสดสุทธิครัวเรือนเกษตรกร แค่ 10% ได้มีการหารือร่วมกันว่าต่อไปต้องปรับให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล แต่จะปรับอย่างไร ได้แนะนำให้ไปดูการวัดรายได้แบบ “โมเดลทุเรียน” เป็นตัวอย่าง ว่าขับเคลื่อนอย่างไร จากกิโลกรัมละ 40 บาท ไปถึง 120 บาท/กก."

เช่นเดียวกับ นายอภิชาต ประสิทธิ์นฤทธิ์ กรรมการในคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คณะฯ ชุดนี้เป็นไปตามนโยบายการขับเคลื่อนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อรวมสรรพกำลังทำให้แผนยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ที่กระทรวงวางไว้ นำไปสู่แผนการปฏิบัติได้จริงและให้เกิดผลระยะสั้น ซึ่งคณะนี้จะเป็นคณะที่เข้าไปเป็นแรงเสริม และสร้างครีเอทีฟใหม่ ๆ ให้แต่ละกรม ซึ่งแต่ละหน่วยงานต้องทำให้สังคมเห็นการเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักโดยตรง

“วันนี้ผลงานนอกจากแจกโฉนดเพื่อการเกษตรแล้ว ยังมีการขับเคลื่อนนโยบายรัฐให้เห็นผล เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าใน 4 ปี ซึ่งโดยภาพรวมเกษตรกรไทยยังขาดความสนับสนุนของภาครัฐอยู่มาก เป็นเกษตรกรทำไมไม่รวย ยิ่งทำยิ่งจน ก็เลยต้องรวมพลมาช่วย ซึ่งผมรับหน้าเสื่อในการนำคนรุ่นใหม่มาพัฒนามาสร้าง Young Smart Farmer โดยเน้นหวังผล จากยุทธศาสตร์ลงสู่การลงมือปฎิบัติ”