นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญายังคงเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรและชุมชนท้องถิ่น ผ่านนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากบนพื้นฐาน แห่งอัตลักษณ์และภูมิปัญญาไทย โดยใช้ประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อคุ้มครองสินค้าท้องถิ่นชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในพื้นที่แหล่งผลิตสินค้าในแต่ละท้องถิ่น ตลอดจนให้ความคุ้มครองและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
โดยกรมฯ จะเดินหน้าส่งเสริมการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค และขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศฝขึ้นทะเบียน “ส้มควายภูเก็ต” สินค้า GI รายการใหม่ลำดับที่ 3 ของจังหวัดภูเก็ตต่อจากสินค้าสับปะรดภูเก็ต และมุกภูเก็ต ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้
สำหรับ“ส้มควายภูเก็ต” เป็นพันธุ์ส้มที่มีทรงผลกลม ร่องผิวเปลือกตื้น เนื้อละเอียด หนา แน่น รสชาติเปรี้ยวจัด มีขอบเขตการปลูกครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัดภูเก็ต ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนเหนียว อุดมไปด้วยธาตุอาหารหลักที่จำเป็น อีกทั้งสภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกชุกตลอดปี ถือเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการปลูกต้นส้มควาย ทำให้ต้นส้มเจริญเติบโตได้ดี ทั้งในมิติของการจัดการใบ ดอก และติดผล สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี
เป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการและสารสำคัญต่างๆ ผสมผสานกับกระบวนการผลิต ส่งผลให้ส้มควายภูเก็ตเป็นสินค้า ที่มีคุณภาพดี สามารถนำมาจำหน่ายได้ทั้งแบบผลสด แบบแห้ง และแบบผง อีกทั้งยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารพื้นเมือง และเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเวชสำอางค์ได้อีกด้วย
อีกทั้งมีการส่งสินค้าไปจำหน่ายนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมถึงการร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆทั่วประเทศ ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่กว่า 3.6 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาขอเชิญทุกท่านร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการ GI และอุดหนุนสินค้า GI ไทย