โละข้าว 10 ปีส่อยื้อ ผวาทุบเชื่อมั่น นบข.ชี้คดีค้างอื้อ อย่าเร่งปิดบัญชี
โละสต๊อกข้าวรัฐล็อตสุดท้าย 1.5 หมื่นตันส่อยื้อ สังคมยังกังขาค้างสต๊อก 10 ปีกินได้ ปลอดภัยหรือไม่ TDRI จี้สยบดราม่าส่งแล็บตรวจยืนยัน ขณะ อคส.รับบัญชา “ภูมิธรรม” เตรียมออกทีโออาร์ เปิดประมูลเร่งปิดจ๊อบ วงใน นบข.เผยคดีจำนำข้าวยังไม่สิ้นสุดอีกกว่าพันคดี อย่าเร่งปิดบัญชี
จากวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะสื่อมวลชนและผู้ส่งออก ลงพื้นที่ตรวจสอบข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวณ คลังสินค้ากิตติชัย หลัง 2 อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และคลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 ต.เฉลียง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ ที่มีข้าวอยู่ประมาณ 150,000 กระสอบ คิดเป็นปริมาณข้าวหอมมะลิ 1.5 หมื่นตัน โดยเป็นข้าวจากโครงการรับจำนำปีการผลิต 2556/57 และถือเป็นข้าวล็อตสุดท้ายของโครงการที่ยังตกค้างอยู่
อย่างไรก็ดีจากที่มีนำข้าวค้างสต๊อก 10 ปี มาหุงและกินโชว์ โดยนายภูมิธรรม ระบุว่าเป็นข้าวดี และยังกินได้ สร้างกระแสความเห็นต่างของหลายภาคส่วนที่ได้เห็นลักษณะทางกายภาพของข้าวที่มีเมล็ดเหลือง มีมอดแมลงเจือปน ขณะที่ข้าวในคลังดังกล่าวมีการรมยาป้องกันมอดแมลงทุก 1-2 เดือนจะมีสารตกค้างที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้นำไปหุงรับประทานหรือไม่ และหากส่งออกจะทำให้เสียชื่อเสียงประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายกำลังเร่งตรวจสอบ โดยส่งข้าวเข้าห้องแล็บเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์
ขณะที่มีบางฝ่ายมองการออกมาเคลื่อนไหวและการันตีข้าวล็อตนี้ของฝ่ายรัฐบาลโดยระบุยังขายได้ในระดับราคาที่สูง เป้าหมายสำคัญส่วนหนึ่งเพื่อสร้างความชอบธรรมให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปีในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว เพื่อให้เดินทางกลับประเทศได้ตามรอยทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชายหรือไม่
รศ. ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากที่มีหลายภาคส่วนสงสัยและกังวลในเรื่องคุณภาพข้าวล็อตนี้ ต้องส่งตรวจและใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยันว่าเป็นอย่างไร ส่วนด้านกายภาพข้าว ต้องไปถามเซอร์เวเยอร์ (ผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว) ถึงคุณภาพข้าวที่ตรวจสอบในโกดังเก็บปกติแบบนี้ว่ามีปัญหาอย่างไรบ้าง จะได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุด แต่ละฝ่ายไม่ควรใช้ความรู้สึกมาตัดสิน
นายกฤษณรักษ์ ใจดี นักบริหาร 9 รักษาการในตำแหน่งรองผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) รักษาการแทนผู้อำนวยการ อคส.เปิดเผย (8 พ.ค.67) ว่า หลังจากที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้นำคณะลงพื้นที่ จ.สุรินทร์เพื่อพิสูจน์คุณภาพข้าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด อคส.อยู่ระหว่างการพิจารณาออกหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการเปิดประมูล (ทีโออาร์) ข้าวล็อตดังกล่าว คาดจะแล้วเสร็จและออกประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลได้กลางเดือนพฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ อคส.จะเปิดชี้แจงทีโออาร์ให้กับผู้สนใจเข้าร่วมประมูลได้รับทราบ จากนั้นจะเปิดโกดังให้ผู้สนใจไปตรวจสอบคุณภาพข้าว และเปิดให้ยื่นซองและตรวจคุณสมบัติ และประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ จากนั้นจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคา และเปิดซองเพื่อพิจารณาและต่อรองราคา คาดจะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลได้ราวต้นเดือนมิถุนายน เบื้องต้นคาดน่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัม (กก.) ละ 18 บาท (ตันละ 18,000 บาท) ได้เงินไม่ต่ำกว่า 270 ล้านบาท หลังจากนั้นจะนำเงินส่งคืนคลัง และปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวได้ทั้งหมด
ด้านแหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) กล่าวว่า ที่ประชุมเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 องค์การคลังสินค้า (อคส.) แจ้งว่ายังมีข้าวคงเหลือในสต๊อกประมาณ 15,000 ตัน เป็นข้าวที่ผู้ประกอบการยังไม่ขนย้ายข้าวออกจากคลังในความดูแลของ อคส. เนื่องจากเจ้าของคลังสินค้าไม่ยินยอมส่งมอบข้าวสารหรือผู้ประกอบการผิดสัญญาซื้อขาย รวมทั้งสิ้น 1,143 คดี คดียุติแล้ว 98 คดี ส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ได้ระบายข้าวหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีกับคลังที่ทำผิดสัญญา รวมทั้งสิ้น 381 คดี คดียุติแล้ว 22 คดี รวมคดีในคลังข้าวที่ อคส. และ อ.ต.ก.ดูแลรับผิดชอบทั้งสิ้น 1,524 คดี ยุติแล้ว 120 คดี เหลือยังไม่ยุติอีกกว่าพันคดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 142,024 ล้านบาท
“ต้องรอผลการดำเนินคดี หากดำเนินการปิดบัญชีก่อนผลการพิจารณาคดีจะแล้วเสร็จ อาจทำให้ราชการเสียหายได้ ดังนั้นทาง นบข.จึงได้มีมติขยายระยะเวลาปิดบัญชีจนกว่าคดีจะสิ้นสุดในชั้นศาล” แหล่งข่าวระบุ