‘ซีพีเอฟ’ ลุยเอาผิด บิดเบือนปลาหมอคางดำ กระทบชื่อเสียงเสียหาย

04 ส.ค. 2567 | 08:03 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ส.ค. 2567 | 08:04 น.

“ซีพีเอฟ” เตรียมเอาผิดตามกฎหมาย หลังพบการใช้ข้อมูลการสื่อสารในเวทีสาธารณะแชร์โพสต์ เรื่องปลาหมอคางดำ พบภาพเท็จ-ข้อความเท็จ บิดเบือนฟาร์มยี่สาร สร้างความเสียหายต่อบริษัท ทำให้สังคมเข้าใจผิด ยํ้าได้ยุติวิจัยปลาหมอคางดำไปแล้วต้น ม.ค. ปี 54 และได้ทำลายลูกปลาทั้งหมด

ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา บนเวทีสาธารณะ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ได้ออกมาระบุว่า มีการใช้ภาพเท็จ และข้อมูลเท็จทำให้เกิดความเสียหายกับบริษัทฯ โดยมี 3 รูปภาพที่เป็นข้อมูลเท็จและบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด และกระทบชื่อเสียงขององค์กรเสียหาย

‘ซีพีเอฟ’ ลุยเอาผิด บิดเบือนปลาหมอคางดำ กระทบชื่อเสียงเสียหาย

นางกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ภาพแรกเป็นภาพที่สร้างความเข้าใจผิดและก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก เป็นการกล่าวอ้างว่าเป็นสภาพบ่อดินของฟาร์มยี่สารซึ่งใช้เพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำปี 2554 ถึง ปี 2557 และกล่าวอ้างว่าบริษัทได้เลี้ยงต่อเนื่องที่ฟาร์มยี่สารตั้งแต่ 2553 ถึง 2560 ซึ่งขอชี้แจงว่า เป็นการใช้ภาพและข้อมูลเท็จ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ฟาร์มยี่สาร จังหวัดสมุทรสงครามของซีพีเอฟ และหลังจากการตัดสินใจไม่เริ่มดำเนินโครงการและยุติการวิจัยเมื่อต้นเดือนมกราคม 2554 ได้ทำลายลูกปลาทั้งหมดไปแล้ว และบริษัทไม่มีกิจกรรมใดๆ เกี่ยวกับปลานี้อีกเลย ดังนั้นการกล่าวอ้างว่ามีการเลี้ยงต่อเนื่องถึงปี 2560 จึงเป็นข้อมูลเท็จเสมือนการโกหกที่สร้างความเข้าใจผิดเชิงลบในสังคมต่อองค์กร

ภาพที่สอง เป็นภาพที่กล่าวอ้างว่าเป็นการคัดเลือกไข่ปลาหมอคางดำ เพื่อนำไปขยายพันธุ์ / ผสมพันธุ์แล้วนำไปอนุบาลในกระชังในฟาร์มยี่สาร ซึ่งความเป็นจริงแล้วสถานที่นี้ไม่ใช่ฟาร์มยี่สาร และกิจกรรมดังปรากฎในภาพนี้ ไม่ใช่กระบวนการคัดเลือกไข่ปลาตามวิธีปฏิบัติของบริษัท

สำหรับภาพสุดท้ายเป็นภาพถ่ายทางอากาศของบริเวณฟาร์ม โดยมีการระบุผังของฟาร์มซึ่งมีข้อความอันเป็นเท็จ กล่าวคือ กรอบสีแดง ไม่ใช่บ่อเลี้ยงปลาตามที่กล่าวอ้าง ความเป็นจริงคือเป็นบ่อเลี้ยงกุ้ง ขณะที่กรอบสีเหลืองที่ระบุว่าเป็นบ่อผสมพันธุ์ปลา และบ่ออนุบาลปลาตามที่กล่าวอ้างนั้น ความจริงคือเป็นบ่อปรับปรุงพันธุ์ปลานิล ปลาทับทิม และปลาทะเล

‘ซีพีเอฟ’ ลุยเอาผิด บิดเบือนปลาหมอคางดำ กระทบชื่อเสียงเสียหาย

จากรูปภาพที่บิดเบือนบางส่วนที่นำมาแสดงในเวทีสาธารณะดังกล่าว บริษัทอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อความบิดเบือนอื่น ๆ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินการทางกฏหมายต่อไป โดยผู้ที่ให้รูปและข้อมูลที่เป็นเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงควรต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ร่วมกับผู้ที่ใช้ข้อมูลและรูปภาพดังกล่าวในการสื่อสารในเวทีสาธารณะต่างๆ ด้วย

“บริษัทเห็นว่าควรมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางสังคมเพิ่มเติมในเรื่องนี้ เนื่องจากมีหลายบริษัทที่ซีพีเอฟไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กลับมีกิจกรรมค้าขายปลาชนิดนี้ในช่วงที่ผ่านมา จึงขอให้สังคมเพื่อให้ความเป็นธรรมควรมีการสอบหาเหตุ อื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เพื่อนำข้อเท็จจริงมาร่วมกันพิจารณาหาแนวทางร่วมมือแก้ไขปัญหา ตลอดจนหาแนวทางป้องกันการแพร่กระจายของปลาในระยะยาว”

สำหรับโครงการความร่วมมือสนับสนุนการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำของซีพีเอฟใน 5 โครงการ ปัจจุบันได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งร่วมมือสนับสนุนกรมประมงที่มีกิจกรรมการจับปลาและปล่อยลูกปลากะพงที่เป็นปลาผู้ล่า ซึ่งพบว่าในบางพื้นที่มีปริมาณปลาหมอคางดำลดลงอย่างมาก ล่าสุดได้เข้าร่วมกิจกรรมจับปลาและมอบปลากะพงเพิ่มเติมให้กับประมงจังหวัดสมุทรสงคราม นอกจากนั้นยังได้รับการติดต่อแสดงความจำนงจากมหาวิทยาลัยชั้นนำอีก 2-3 แห่งในการร่วมมือการทำวิจัย ทั้งการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร และการวิจัยเพื่อหาแนวทางควบคุมประชากรปลาในระยะยาว

นางกอบบุญ กล่าวด้วยว่า บริษัทยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสอบหาข้อเท็จจริงบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงอย่างสุจริต ขณะเดียวกันต้องขอปกป้องชื่อเสียงขององค์กรจากการใช้ข้อมูลและหรือรูปภาพกล่าวอ้างที่เป็นเท็จ ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงให้สังคมเข้าใจผิด ผู้ให้ข้อมูลและหรือรูปภาพเหล่านั้นรวมทั้งผู้ที่ใช้ข้อมูลและรูปภาพดังกล่าวประกอบความคิดเห็นบนเวทีสาธารณะหรือสื่อต่างๆ ควรรับผิดชอบในการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น โดยจะพิจารณาแนวทางการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป