นายธวัชชัย เศรษฐจินดา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานหอการค้าภาคกลาง เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ” จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ หรือ ควรรู้อยู่แล้วว่าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ว่าในแง่มุมมองของผู้นำรัฐบาลต้องมีการเปลี่ยนแปลง ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังคงเป็นพรรคเดิม หรือพรรคร่วมที่ยังบริหารต่อ
ซึ่งก็ปัจจัยที่กังวลในระยะสั้นในเรื่อของสภาพเศษฐกิจกำลังซื้อถดถอย ค่าครองชีพสูง ส่วนปัจจัยระยะยาวก็ไม่น่ามีผลกระทบ เพราะคาดว่ารัฐบาลยังเป็นพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลดำเนินการต่อ แนวนโยบายเศรษฐกิจต่าง ๆ ก็คาดว่าจะไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน เรื่องความเชื่อด้านการลงทุนของต่างชาติก็ไม่ได้มีความกังวล
“ตอนนี้กังวลปัญหาเศรษฐกิจรุมล้อม สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ในแง่ของการออกนโยบายที่จะแก้ปัญหาก็อาจจะต้องเลื่อนออกไปอีก”
อย่างไรก็ตามแม้จะพ้นสภาพแล้ว แต่ก็ยังสามารถดำรงตำแหน่งรักษาการแทนต่อ จนกว่าจะได้นายกฯคนใหม่ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็ยังสามรถขับเคลื่อนต่อไปได้ การเสนอชื่อนายกคนใหม่ฯ ก็ต้องมารอลุ้นว่าจะเสนอใครตอนนี้อาจจะมีช่วงรอยต่อรัฐบาลรักษาการก็อาจจะไม่สามารถออกนโยบายหรือนุมัติโครงการต่าง ๆ ไม่ได้ แต่ก็คิดว่าพรรครัฐบาลและพรรคร่วมน่าจะมีการวางแผนไว้ทั้งหมดอยู่แล้ว
“แต่คิดว่าการเลือกนายกคนใหม่ฯ คงไม่นานนะเพราะคิดว่าพรรครัฐบาลและพรรคร่วมก็คงมีการทำการบ้านกัน เขาคงมีการเตรียมการในในลูกทุก วางแผนรับมือคำตัดสินของทีออกมา เขาคงคิดกันไว้เบื้องต้นไว้แล้ว”
ด้านนักธุรกิจภาคตะวันออก เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ” มองในเรื่องของความเชื่อมั่นในการลงทุน ก็คิดว่าอาจจะไม่กระทบมากนักเพราะสถานกาณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี หากมีการเปลี่ยนแปลงบ้างก็อาจจะดีขึ้น
“สำหรับเราที่เป็นนักธุรกิจ แล้วก็ไม่ได้มีความกังวลเรื่องดังกล่าว แต่กลับกังวลกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันตอนนี้มากกว่าเพราะมันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย”
หากมีแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ก็อยากให้ช่วยพิจารณาเงื่อนไขการเชิญชวนนักลงทุนชาวต่างชาติที่มาทำธุรกิจในประเทศ ให้มีมาตราการที่สามารถดูแลผู้ประกอบการไทยมากยิ่งขึ้นด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีทุนจากต่างชาติเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยไม่น้อย