ชาวนาลุ้น นบข. 8 พ.ย.นี้ คลอดมาตรการช่วยเหลือรอบใหม่

04 พ.ย. 2567 | 03:08 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ย. 2567 | 03:12 น.

พาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ทุ่งกุลาร้องไห้ ติดตามการซื้อขายข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลใหม่ที่เริ่มทยอยออกสู่ตลาด เล็งเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรใน นบข. 8 พ.ย. นี้

นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) เตรียมเสนอมาตรการในการชะลอผลผลิตที่จะออกกระจุกตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2567 พร้อมเสนอในการประชุมนบข.ที่จะมีการประชุมในวันที่ 8 พฤศจิกายน นี้ พิจารณา

 

ชาวนาลุ้น นบข. 8 พ.ย.นี้ คลอดมาตรการช่วยเหลือรอบใหม่

 

นายวิทยากร กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่กำลังทยอยออกสู่ตลาดในขณะนี้ ให้ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขาย จึงลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ณ สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด 

จากการลงพื้นที่ พบว่า เกษตรกรเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกหอมมะลิ กข15 มาจำหน่ายโดยเป็นข้าวเกี่ยวสด ความชื้นประมาณ 25% ซึ่งวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา สหกรณ์รับซื้ออยู่ที่12,500 บาท/ตัน คิดเป็นข้าวแห้งประมาณ 14,700 บาท/ตัน ซึ่งถือว่าราคายังอยู่ในเกณฑ์ดี เกษตรกรมีความพอใจ 

 

ชาวนาลุ้น นบข. 8 พ.ย.นี้ คลอดมาตรการช่วยเหลือรอบใหม่

 

ทั้งนี้จากการหารือร่วมกับสหกรณ์ฯ พบว่า เป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่สามารถรวบรวมข้าวเปลือกจากสมาชิกได้ปีละประมาณ 100,000 ต้น และร่วมโครงการชะลอการขายและสินเชื่อรวบรวมข้าวเปลือกทำให้สมาชิกได้ประโยชน์จากราคาที่ดีขึ้น ซึ่งในปีนี้ จึงเตรียมมาตรการในการชะลอผลผลิต ให้นบข.พิจารณา เชื่อว่าจะทำให้ราคาในปีนี้มีเสถียรภาพ เป็นที่พอใจของเกษตรกรในราคาจำหน่ายเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างมูลค่า และรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นข้าวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ได้พบปะกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวหอมมะลิสงเปลือยและกลุ่มนาแปลงใหญ่ข้าวเมืองบัว เพื่อส่งเสริมและต่อยอดกิจกรรมการประกวดข้าวหอมมะลิและเชื่อมโยงตลาดให้กับเกษตรกร เป็นการเสริมศักยภาพให้กับกลุ่มคนตัวเล็กอย่างต่อเนื่อง สำหรับการซื้อขายข้าวเปลือกที่ออกมาในช่วงนี้ 

ล่าสุด กรมการค้าภายใน ได้ติดตามกำกับดูแลการซื้อขายข้าวเปลือกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการชั่งน้ำหนักและวัดความชื้นต่อไป