นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตาม สถานการณ์ราคาข้าวนาปี 2567/68 ของกรมการค้าภายใน พบว่า ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดคละในบางพื้นที่ ราคาปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณข้าวในสต็อกของโรงสีลดลง โรงสีบางรายที่มีความต้องการสินค้าเพื่อใช้และเก็บสต็อกเสนอราคารับซื้อสูงขึ้น
สำหรับภาพรวมข้าวเปลือกนาปี 67/68 ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 13.4 ล้านตัน หรือประมาณ 50% ณ วันที่ 15 พ.ย.67 โดยมีราคาดังนี้
ข้าวเปลือกเจ้านาปี 67/68 : ราคาข้าวแห้ง (ความชื้น 15%) 8,900-10,200 บาท/ตัน ราคาข้าวเกี่ยวสด 7,800-9,000 บาท/ตัน พบราคาปรับตัวสูงขึ้นในหลายพื้นที่ภาคกลาง เช่น สุพรรณบุรี ราคาข้าวแห้ง เฉลี่ย 10,550 บาท/ตัน เพิ่มขึ้น 500 บ/ตัน จากสัปดาห์แรกของ พ.ย.67 กำแพงเพชร สุโขทัย 9,600 บาท/ตัน (+200 บาท/ตัน) สิงห์บุรี 9,800 บาท/ตัน (+200 บาท/ตัน) เป็นต้น
ข้าวเปลือกปทุมธานี : (ความชื้น 15%) ปัจจุบันอยู่ที่ 12,500-13,000 บาท/ตัน ราคาเกี่ยวสด อยู่ที่ 9,700- 10,100 บาท/ตัน โดยสุพรรณบุรี เฉลี่ย 13,500 บาท/ตัน (+200 บาท/ตัน) อุตรดิตถ์ 12,500 บาท/ตัน (+100 บาท/ตัน)
ข้าวเปลือกหอมมะลิ : ปัจจุบันออกสู่ตลาดแล้ว ประมาณ 4 ล้านตัน โดยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเกี่ยวสด (ความชื้น 30%) อยู่ที่ 12,000 -12,400 บาท/ตัน คิดเป็นข้าวแห้ง (ความชื้น15%) อยู่ที่ 15,500 – 16,000 บาท/ตัน ราคาเฉลี่ยคงที่จากสัปดาห์ก่อน
แต่พบว่ามีบางพื้นที่ราคาเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากต้นเดือน พ.ย.67 เช่น อำนาจเจริญ เฉลี่ย 14,100 บาท/ตัน (+ 400 บาท/ตัน) นครพนม 13,250 บาท/ตัน (+100 บาท/ตัน) อุดรธานี 13,900 บาท/ตัน (+ 450 บาท/ตัน) ขอนแก่น 15,050 บาท/ตัน (+ 50 บาท/ตัน)
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาภาคอีสานบางพื้นที่มีฝนตกชุก และชาวนาเร่งเกี่ยวทำให้ข้าวเปลือกมีความชื้นสูงมาก ราคาที่ได้จะลดลงตามคุณภาพ ซึ่งรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และกรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวอย่างใกล้ชิด และติดตามตรวจการรับซื้อข้าวเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ป้องกันไม่ให้เอารัดเอาเปรียบชาวนา หรือฉวยโอกาสกดราคารับซื้อ
นายวิทยากร กล่าวว่า ในปีนี้ ราคาส่งออกข้าวไทยทุกชนิด เฉลี่ยในช่วง 10 เดือนแรกของปี (มกราคม – ตุลาคม) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยกรมการค้าต่างประเทศรายงานข้อมูลราคา FOB ส่งออกข้าวไทยเฉลี่ยจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มีดังนี้
สำหรับราคาข้าวส่งออกสะท้อนกลับไปเป็นราคาข้าวเปลือกสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวสูงขึ้นเช่นกัน รวมถึงปริมาณส่งออกข้าวไทยยังมีแนวโน้มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาด้วย ซึ่งจากข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศพบว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปี มีการส่งออกข้าวประมาณ 8.37 ล้านตัน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 และยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับผลผลิตข้าวนาปีของไทยที่กำลังออกสู่ตลาดมีปริมาณเพิ่มขึ้นและมีคุณภาพที่ดีจากปริมาณน้ำที่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูก อีกทั้งยังมีผลผลิตข้าวหอมมะลิไทยที่เพาะปลูกได้ปีละครั้งออกสู่ตลาด ในช่วงนี้ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และแคนาดา
ขณะที่ ข้าวขาวก็มีคำสั่งซื้อจากเอกชนผู้ส่งออกข้าวที่ชนะในการประมูลนำเข้าข้าวของอินโดนีเซียปริมาณ 200,500 ตัน จึงคาดการณ์ว่าปริมาณส่งออกข้าวไทยในปีนี้จะสูงกว่า 9 ล้านตัน มูลค่ากว่า 6,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 230,000 ล้านบาท ล่าสุดได้มอบให้กรมการค้าต่างประเทศทำแผนรองรับการผลักดันการส่งออกข้าวปีหน้าด้วย