พร้อมทั้งแต่งตั้ง “ธานี มณีนุตร์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO)
“ธานี” ก็ลุยต่อทันที กับการขยายธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน คลินิก และสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ แบบไม่ให้เสียเวลา เพราะเขาก็คือหนึ่งในผู้บริหารที่ทำงานร่วมมากับ ดร.สาธิต ตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้น ภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย จึงไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้ ซึ่งล่าสุด PRINC ยังมีการประชุมทีมผู้บริหารแบบ 3 วัน 3 คืน เพื่อจัดทำแผนกลยุทธ์ในการเดินหน้าธุรกิจ ภายใต้ตรีมหลัก “2023 ก้าวย่างสู่ความยั่งยืน” พร้อมทั้งเร่งผลักดันหุ้นบริษัทเข้าสู่กลุ่มของหุ้นยั่งยืน - Thailand Sustainability Investment (THSI) ซึ่งมีแผนจะเข้ากลางปี 2566 และน่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในสิ้นปี 2566
“จริงๆ เรามีแผนจะเข้า Dow Jones Sustainability Index : DJSI ซึ่งเป็นหุ้นความยั่งยืนระดับโลก แต่ติดเงื่อนไขที่จะต้องมีผู้ถือหุ้นรายย่อยมากกว่า 500 ล้านยูเอสดอลล่าร์ ซึ่งมันค่อนข้างสูง เราเลยไปตามแผนระยะใกล้ก่อน คือการเข้า THSI ซึ่งมันก็ต้องประกอบด้วย เรื่องของ ESG การดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล”
ซีอีโอ PRINC เล่าว่า PRINC มี ทีวีบูรพา เป็นบริษัทในเครือที่คอยช่วยให้คำปรึกษาในการเข้าสู่หุ้น THSI และขณะนี้หลายๆ โรงพยาบาลของ PRINC ก็ดำเนินการเรื่องการประหยัดพลังงาน โดยเริ่มติดตั้งโซล่ารูฟท็อปแล้วคือ ที่สกลนคร และจะขยายต่อไปที่ศรีสะเกษ และอุตรดิตถ์ ซึ่งจะทยอยติดตั้งไปเรื่อยๆ จนครบทุกโรงพยาบาล
นอกจากนี้ PRINC ยังทำเรื่อง NET ZERO และปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัทซื้อคาร์บอนเครดิต เพื่อช่วยในการบริหารจัดการพลังงานทั้งในปีหน้าและปีถัดๆ ไปให้ดีขึ้น
รวมถึงมีการใช้ Circular Economy หรือ Circular Product ต่างๆ มีการนำขยะที่เป็นของเหลือใช้ หรือของเสีย (waste) ในโรงพยาบาล มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำกลับไปใช้ใหม่ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากนอย่างคุ้มค่า เช่น ชุดยูนิฟอร์มพยาบาล ที่ผลิตจากขวดพลาสติก 15 ขวด และยังมีอีกหลายกิจกรรมที่ทำร่วมกับชุมชนต่างๆ ที่ PRINC เปิดให้บริการ และยัังลงพื้นที่ศึกษาสิ่งของที่อาจนำมาต่อยอดการใช้งาน เช่น ล่าสุดที่ลงไปสกลนคร ไปดูพวกผ้าคราม ที่สามารถเอามาประดิษฐ์หรือใช้ทำเป็นถุงยา
“ธานี” พูดถึงการเดินหน้าแผนความยั่งยืนของ PRINC ที่ทุ่มเทและพัฒนาเต็มที่ โดยมีคณะกรรมการ และตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน ขึ้นมากำหนดกลยุทธ์และติดตามการดำเนินงานอย่างจริงจัง
“เรื่อง THSI คือต้องเสร็จสิ้นภายในปลายปีหน้า และเรายังมีแผนเรื่อง NET ZERO ที่ต้องทำต่อเนื่อง อย่างเรื่องคาร์บอนเครดิต เราซื้อปีนี้ปีแรก ขณะเดียวกัน เราก็พยายามศึกษา ดูการใช้พลังงานของเราว่าเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ทำแผน โดยจะพยายามทำให้ไม่ต้องซื้อคาร์บอนเครดิตไปทุกๆ ปี แต่จะเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยตัวเราเองให้มากที่สุด”
ผู้บริหาร PRINC บอกว่า ขณะนี้การลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ๆ จะเริ่มตั้งแต่การวางแผน ออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การลดใช้พลังงาน มีการใข้แรงงานอย่างถูกต้อง ซึ่งแผนเหล่านี้ จะปรับไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดศักยภาพสูงสุด
เรื่องของความยั่งยืน เป็นแนวทางที่ “ดร.สาธิต” มุ่งเน้นขับเคลื่อนและปรับโครงสร้างธุรกิจมุ่งสู่การสร้างสรรค์คุณค่าธุรกิจคู่สังคม (Creating shared value: CSV) แบบเต็มตัวตั้งแต่ปี 2563 “ธานี” เล่าว่า การดำเนินงานที่ผ่านมา ถือเป็นที่ยอมรับจากนักลงทุน ซึ่งเห็นได้จากการที่ IFC สถาบันการเงินระหว่างประเทศ ของเวิลด์แบงก์ ได้ร่วมลงทุนกับ PRINC ใช้งบ 540 ล้านบาท ร่วมลงทุนในโรงพยาบาลวิรัชศิลป์ จ.ชุมพร ตั้งแต่ปี 2563
ส่วนแผนขยายงาน แน่นอนว่าทุกอย่างเดินหน้าเต็มที่ โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเมืองรองต่างๆ รวม 13 แห่ง มีแผนที่จะขยายให้ครบ 20 แห่ง ภายใน 2 ปี และจะพัฒนาเพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาลที่มีอยู่ให้มีบริการที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการขยายคลินิกชุมชนอบอุ่น ที่ปัจจุบันมี 17 แห่ง และกำลังขยายไปเป็น 34 แห่ง ควบคู่กับการขยายศูนย์ดูแลความงามและดูแลผิวพรรณ ชื่อ ผิวดีคลินิก ที่เปิดให้บริการตามศูนย์การค้าต่างๆ จะต่อยอดไปสู่ Wellness Anti Aging ต่อไป
“ธานี” ปิดท้ายถึงผลการดำเนินงาน ซึ่ง 9 เดือนแรกของปี 2565 สร้างรายได้รวมกว่า 5 พันล้านบาท เติบโตสูงถึง 60.5% เพราะปีนี้การเติบโตมาจากการเริ่มกลับเข้ามาใช้บริการปกติของคนทั่วไป รวมถึงเป็นตัวเลขการเข้าใช้บริการของผู้ป่วยโควิดในช่วงที่ผ่านมาด้วย เป้าหมายในปีหน้า ขอยืนให้ได้ระดับเดียวกับปี 2565 หรือโต 3-5% ก็ถือว่าโอเคแล้ว
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,838 วันที่ 24 - 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565