เจน2 ซีเอ็นพี พลาสติก ผันธุรกิจจาก OEM สู่ผู้ผลิตเบอร์1 ตลาดหลังคา-รางน้ำ
ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา แวดวงอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนัก หากแต่ในธุรกิจผู้ผลิตรางน้ำและหลังคาไวนิล ของบริษัท ซีเอ็นพี พลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด กลับสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง และบางช่วงสามารถโตได้มากกว่าช่วงปกติ
"ไพโรจน์ โชคนันทิพร" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็นพี พลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด เล่าว่า บริษัทฯ สามารถทำรายได้เติบโตมาต่อเนื่อง เฉลี่ย 20-40% ทุกปี โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 80-90% ถือเป็นเบอร์ 1 ของตลาด ด้วยจุดแข็งของการพัฒนาโปรดักส์ใหม่ๆ คิดระบบใหม่ๆ เพิ่มเติมทุกปี โดยมองจากรายละเอียดเล็กๆ ดูจากปัญหาและความต้องการของผู้ใช้ รวมถึงรูปแบบหรือดีไซน์ที่สวยงามเข้ากับบ้าน
ในช่วงที่ผ่านมา แม้ตลาดรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะค่อนข้างชะลอตัว แต่ในซีเอ็นพีฯ กลับสามารถสร้างรายได้เติบโต ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการรีโนเวทบ้าน เนื่องจากช่วง work from home ทำให้คนใส่ใจกับการซ่อมแซมตกแต่งบ้านมากขึ้น ทำให้สามารถทนแทนตลาดที่หายไป เช่น โครงการอสังหาริมทรพย์ใหม่ๆ หรือการลงทุนโครงการจากต่างประเทศได้
ซีเอ็นพี พลาสติกฯ เป็นผู้ผลิตตั้งแต่เม็ดพลาสติก ทำให้สามารถปรับตามความต้องการของผู้ใช้งาน สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครบทุกด้าน โดยปัจจุบันกลุ่มลูกค้าคือร้านวัสดุก่อสร้างต่างๆ ที่มีอยู่กว่า 2,500 ร้านค้าทั่วประเทศ และโมเดิร์นเทรดทุกแบรนด์ในตลาด
ปีหน้า บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ใช้รางน้ำและหลังคาไวนิลอยู่แล้ว เช่น กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และที่เพิ่งซื้อสินค้าล็อตใหญ่ไป ก็คือ มัลดีฟ
"ไพโรจน์" เล่าย้อนหลังว่า เขาเข้ามาเริ่มธุรกิจนี้ตั้งแต่อายุ 18 ปี เนื่องจากเป็นธุรกิจครอบครัว ที่พ่อแม่เป็นคนรุ่นเก่า การเข้ามาช่วยงานในช่วงแรก ทำให้เห็นปัญหา และพบว่าการรับจ้างผลิต (OEM) ที่พ่อแม่ทำอยู่ ไม่ค่อยตอบโจทย์กับการพัฒนาโปรดักส์ เมื่อเขาเข้ามารับช่วงต่อจริงจัง จึงผันบริษัทจากการทำ OEM มาเป็นผู้ผลิตภายใต้แบรนด์ของตัวเอง คือ VG Rain Gutter โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกเองทั้งหมด ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าได้ และได้รับการตอบรับจากตลาดดี ทำให้มีการขยายธุรกิจและโรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่ฉะเชิงเทรามาเรื่อยๆ
ล่าสุด เตรียมซื้อที่ดินเพิ่ม เพื่อขยายโรงงานและกำลังผลิต รองรับความต้องการของตลาด และการขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศ ซึ่งมองว่า จะเริ่มขับเคลื่อนจริงจังในปี 2566
ส่วนการนำบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ "ไพโรจน์" มองว่า มีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหักทรัพย์ฯ เช่นกัน เพียงแต่ยังไม่รีบ กำลังอยู่ในช่วงศึกษาและเตรียมแผนงาน โดยเฉพาะโรดแมปในการทำธุรกิจ เนื่องจากสินค้าที่ทำอยู่ขณะนี้มีความท้าทายสูง แม้จะมีคู่แข่งน้อย แต่การทำตลาดไม่ง่ายนัก เพราะปัจจุบัน ยังไม่มีบ้านหลังไหน หรือดีเวลลอปเปอร์รายใด ทำรางน้ำให้กับลูกค้า เพราะจะเป็นการเพิ่มต้นทุน และในแง่กฎหมายก็ยังไม่เข้ามารองรับ ต่างจากประเทศอื่นๆ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
เป้าหมายในอนาคตของซีเอ็นพี พลาสติกฯ คือ จะพยายามให้ความรู้กับลูกค้าและผู้ใช้งานทั่วไปให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่า เม็ดพลาสติกที่ดีเป็นอย่างไร ของไม่ดีเป็นอย่างไร ในปีหน้า บริษัทฯ มีแผนที่จะเข้าไปพูดคุยในหลายๆ หน่วยงาน พยายามส่งต่อถึงดีเวลลอปเปอร์ให้เข้าใจถึงประโยชน์ของการทำระบบรางน้ำ และระบบหน่วงน้ำ ที่จะเข้ามาช่วงบรรเทาปัญหาน้ำท่วมได้ หากทุกๆ บ้านมีระบบหน่วงน้ำเหมือนๆ กัน ก็จะทำให้ลดปัญหาน้ำท่วมไปได้ระดับหนึ่ง
"ไพโรจน์" กล่าาว่า ในอนาคตไม่เพียงการหาโอกาสเพิ่มตลาดใหม่ๆ และพัฒนาโปรดักส์ใหม่ๆ แต่เขายังมองถึงธุรกิจและการลงทุนใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจเทค ซึ่งเป็นธุรกิจที่เขามีความสนใจส่วนตัว แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้ปิดกั้นธุรกิจอื่นๆ หากมองเห็นโอกาส ก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุน เนื่องจากการทำธุรกิจเดียวเซ็กเม้นท์เดียว ถือว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะฉะนั้นเขาจึงมองหาโอกาสในธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติม และพร้อมที่จะลงทุนทันทีที่พร้อม