กลุ่มบริษัท แอสเซท ไฟว์ ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 5 กันยายน 2556 ภายใต้การบริหารของ "ศุภโชค ปัญจทรัพย์" ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่มีประสบการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์กว่า 15 ปี ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของผู้อาศัยใจกลางเมือง
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาความคุ้มค่า และตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่แท้จริง เพียงระยะเวลา 6 ปี บริษัทสามารถพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กว่า 8 โครงการในทำเลศักยภาพ และมีรูปแบบที่โดดเด่น
โดยนายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงแนวคิดหลักการในการดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ว่า แม้ที่บ้านตั้งแต่รุ่นคุณปู่ (นายโชคชัยปัญจทรัพย์) และบิดา มารดา จะดำเนินธุรกิจอสังหาฯ แต่ทาง A5 ไม่ได้นำที่ดินของกงสีมาดำเนินโครงการใด เพราะที่ดินทั้งหมดนั้นลงทุนใหม่ และหาทำเลเองในทุกๆ โครงการ
ต้องเท้าความไปตั้งแต่รุ่นคุณปู่ โชคชัย ปัญจทรัพย์ ผู้บุกเบิกการทำโครงการบ้านจัดสรรและที่ดินย่านลาดพร้าว เมื่อปี2505 ทำให้ได้เห็นการทำงานในโครงการอสังหาฯ ตั้งแต่เด็ก ขณะที่ตอนเข้าศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) เริ่มสนใจเล่นหุ้นช่วงประมาณปี 2543
และไปทำงานด้านโบรก ทำให้ไม่ได้เข้าทำงานในกงสีอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว จนช่วงปี 2546 เริ่มเข้ามาช่วยงานคุณแม่ โครงการบ้านรื่นฤดี ที่ได้มาช่วยเต็มตัวใช้ระยะเวลา 8-9 ปี จนมีความสนใจก้าวเข้ามาดำเนินธุรกิจด้านนี้ด้วยตัวเอง
"เรามีความฝันอยู่แล้วอยากมีบริษัทในตลาดฯ และอยากเป็นท็อปๆ ของเมืองไทย ที่นี่เข้าตลาดหุ้นไม่มีความรู้มาก ที่ได้ทำโบรกก็เป็นเทคนิคเทรด เริ่มจาก Backdoor เราได้คำแนะนำว่าเร็วกว่าการเข้าโดยตรง ซึ่งเราเข้าด้วยตัวเองสบายมาก ความรู้ยังไม่เยอะ เค้าว่าดีก็ดี แต่ก้าวเข้ามาแล้วก็ต้องทำให้จบ"
จึงได้เข้าตลาดด้วยวิธี Backdoor ผ่าน บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น หรือ ADAM ซึ่งก็มีปัญหา และใช้เวลานานมากกว่าจะได้กลับมาเทรดบนกระดาน หากย้อนกลับไปได้ไม่มีทางที่จะเข้าตลาดด้วย Backdoor แน่นอน หลังจากนี้หากจะนำบริษัทเข้าตลาดจะเข้าด้วย IPO แน่นอน และมาจนถึงตอนนี้บริษัท A5 กลับมามีกำไรในทุกๆ ปีจากการดำเนินโครงการ
สำหรับทุกวันนี้ทาง A5 มีการดำเนินโครงการในรูปแบบ "Inspired by Love" จะใช้ใจสร้างโครงการ ทุกวันนี้เราเป็นโฮลดิ้ง ที่พัฒนาด้านธุรกิจอสังหาฯในทุกพื้นที่ รวมทั้งรับตกแต่งภายในเพิ่มเติม ทั้งนี้ที่ผ่านมาทาง A5 เน้นการทำธุรกิจตลาดบนที่มีมูลค่าสูงผ่าน 3 แบรนด์หลัก ตั้งแต่ราคา 25-50 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ วานา เรสซิเดนซ์ ส่วนระดับราคา 50-200 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ แซงค์ รอยัล และคอนโดหรู ภายใต้ชื่อ ต้นสนวัน เรสซิเดนซ์
รวมถึงเลือกโลเคชั่นที่มีความเป็นเมืองใกล้โรงเรียน ใกล้ห้าง ใกล้โรงพยาบาล และสถานที่ทำงาน เป็นหลัก เพื่อให้มีความสะดวกต่อผู้อยู่อาศัยในการเดินทางที่ผ่านมาเราทำตลาดบนความใส่ใจ ในทำเทนั้นๆ ที่จะต้องแตกต่างจากตลาดในพื้นที่ที่มีอยู่ และต้องตอบโจทย์ความต้องการของตลาดบนเป็นสำคัญ ที่มีความคล้ายกับกึ่งรูปแบบการสร้างบ้านเองที่ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการได้
เพราะ A5 เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ในการสนองความต้องการสร้างบ้านเองของลูกค้าด้วย ทำให้เราไม่เหมือนใครในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และไม่มีใครเหมือนเราด้วย เพราะพัฒนาแบรนด์เฉพาะที่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความต้องการของลูกค้า ที่ทำให้ A5 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องในทุกๆ
ส่วนด้านเงินทุนโครงการส่วนใหญ่ของบริษัท A5 จะมาจากการกู้เงิน และเงินทุนของบริษัท หากมีการปล่อยหุ้นกู้จะทำให้เพิ่มจำนวนโครงการได้มากขึ้น แม้ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 7% แต่เป็นระดับที่เหมาะสม
ทั้งนี้การออกหุ้นกู้ของทางบริษัทจะต้องมีการผ่านการพิจารณา หากไม่มีความต้องการซื้อของลูกค้าในโครงการต่างๆก็จะไม่สามารถออกหุ้นกู้ได้ แม้ในปีนี้จะมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับหุ้นกู้ในกลุ่มอสังหาฯ
แต่เรามั่นใจการเติบโตจึงตัดสินใจออกหุ้นกู้ในปี 2566 นี้ ซึ่งการออกหุ้นกู้นั้น แตกต่างจากการกู้เงินจากธนาคารแม้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าในการดำเนินโครงการที่เป็นต้นทุน แต่บริษัทไม่ต้องมีสินทรัพย์ เพื่อวางค้ำประกัน และทำให้ขับเคลื่อนโครงการไปได้