รอยเตอร์รายงานว่า ขณะที่การเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ใกล้จะมาถึง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ออกมาส่งสัญญาณถึงความหวังว่า สหรัฐฯ จะยังคงมีนโยบายที่มั่นคงในการร่วมมือกับนานาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร นายเซี่ย หยิงเซียน ผู้อำนวยการสำนักด้านสภาพภูมิอากาศ กระทรวงสิ่งแวดล้อมจีนกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยย้ำถึงความจำเป็นของการทำงานร่วมกันในระดับสากล
การร่วมมือระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสองประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ช่วยให้เกิดข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศที่สำคัญหลายฉบับ รวมถึงความสำเร็จในการลงนามในข้อตกลงปารีสปี 2558 อย่างไรก็ตาม การกลับมาของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานร่วมกัน เนื่องจากมีแนวโน้มที่ทรัมป์อาจถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงดังกล่าวเป็นครั้งที่สอง
นายเซี่ยกล่าวว่า “จีนหวังว่าสหรัฐฯ จะสามารถรักษาเสถียรภาพและความต่อเนื่องของนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศ และยังคงทำงานร่วมกับประเทศอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง” โดยแสดงความคาดหวังนี้ก่อนการประชุม COP29 ที่จะจัดขึ้นในบากู ประเทศอาเซอร์ไบจานในอีกสิบวันข้างหน้า ทั้งนี้ นายเซี่ยย้ำว่าความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ และพหุภาคีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการแก้ปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ
ในส่วนของข้อตกลงปารีส ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องส่ง “เป้าหมายการมีส่วนร่วมที่กำหนดโดยประเทศ” (NDCs) ฉบับใหม่ที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้นให้กับองค์การสหประชาชาติก่อนเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งวอชิงตันได้กดดันให้ปักกิ่งตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% ภายในปี 2575
นายเซี่ยยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จีนจะดำเนินตามพันธกิจ NDCs อย่างแน่วแน่ และมีการเสนอเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2575 แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งนี้ จีนได้ให้คำมั่นที่จะทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึงจุดสูงสุดก่อนปี 2573 และบรรลุสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2603
นักวิจัยหลายฝ่ายชี้ว่า จีนอาจมีศักยภาพในการตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยานยิ่งขึ้น โดยมองว่าปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อาจเริ่มลดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจีนจะมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ความต้องการพลังงานยังคงเพิ่มขึ้น และมีอุปสรรคด้านการค้าสีเขียวที่ทำให้การดำเนินงานชะลอลง
นอกจากนี้ นายเหวิน หัว รองผู้อำนวยการสำนักปกป้องสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนกล่าวว่า “เป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนให้ถึงจุดสูงสุดและการเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น เป็นสิ่งที่ต้องการความพยายามอย่างมาก” โดยให้ความสำคัญกับความท้าทายที่จีนต้องเผชิญในกระบวนการนี้
เมื่อเดือนที่แล้ว สถาบันวิจัยของรัฐที่มีอิทธิพลในจีนได้เรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างเด็ดขาดภายในปี 2575 และเสนอแนะให้เพิ่มกำลังการผลิตพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวมกันให้ได้ 2,400 กิกะวัตต์ภายในปี 2573
ข่าวที่เกี่ยวข้อง