น้ำท่วมภาคใต้ลาม 6 จังหวัด สั่งเขื่อนรัชชประภางดระบายน้ำ 10 วัน
ศปช.เผยน้ำท่วม 6 จังหวัดภาคใต้รุนแรง สั่งปิดระบายน้ำเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี 10 วัน ช่วยบรรเทาท่วม เตือน 7 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ว่า ขณะนี้มี 6 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ประกอบด้วย ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง โดยที่ประชุม ศปช. ได้สั่งการให้เร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน
"เราได้ระดมสรรพกำลังทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และพลเรือน พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องตลอดหลายวันที่ผ่านมา มีการกระจายกำลังครอบคลุมทั้งพื้นที่ภาคใต้ตอนบนและตอนล่าง" นายจิรายุกล่าว
พร้อมระบุว่า การช่วยเหลือประกอบด้วยการเร่งสูบระบายน้ำ อพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยง ดูแลระบบสาธารณูปโภค และแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่มสะอาดให้แก่ผู้ประสบภัย โดยจะปักหลักให้ความช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
สำหรับสภาพอากาศวันนี้ (17 ธ.ค. 67) พบว่าพื้นที่ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ 7 จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 18-22 ธ.ค. 67 ปริมาณฝนจะเริ่มลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ด้านการบริหารจัดการน้ำ โฆษก ศปช. เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ได้ประกาศงดการระบายน้ำเป็นเวลา 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-26 ธ.ค. 67 เพื่อบรรเทาผลกระทบน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นกับประชาชน ขณะที่อ่างเก็บน้ำบางลาง จ.ยะลา ซึ่งปัจจุบันมีน้ำใช้การ 83% ยังคงระบายน้ำในอัตรา 18 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
เนื่องจากระดับน้ำยังต่ำกว่าเกณฑ์ควบคุมสูงสุด เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี โดยจะมีการปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อลดผลกระทบให้น้อยที่สุด
ทั้งนี้ กรมประชาสัมพันธ์ได้เร่งดำเนินการติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องผ่านทุกช่องทาง โดยได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ทั้งคลื่น FM 89.75 MHz, 96.75 MHz, 97.00 MHz และ AM 1242 KHz
นอกจากนี้ ยังได้สั่งล้มผังรายการปกติของสถานีโทรทัศน์ช่อง NBT2HD (กดเลข 2) และ NBT South (กดเลข 11) เพื่อรายงานสถานการณ์แบบต่อเนื่อง พร้อมถ่ายทอดสดผ่านเพจ Facebook NBT นครศรีธรรมราช รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มของกรมประชาสัมพันธ์
"ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากพบเห็นเหตุการณ์ผิดปกติหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง" นายจิรายุกล่าวทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง