environment

สหรัฐฯ ปิดม่านติดตามมลพิษ ออกพ.ร.บ. ใหม่ ไม่เปิดชื่อเจ้าเครื่องบินส่วนตัว

    ความเป็นส่วนตัวเหนือความโปร่งใส: สหรัฐเคาะพ.ร.บ. ใหม่ ปิดม่านการติดตามปล่อยก๊าซเรือนกระจกเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว

องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (Federal Aviation Administration - FAA) เพิ่งประกาศกฎใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการติดตามเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวอย่างมีนัยสำคัญ กฎนี้เป็นไปตามพ.ร.บ.ใหม่ ที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเพิ่งอนุมัติไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดย อนุญาตให้เจ้าของเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวสามารถปกปิดข้อมูลการบินของตนจากสาธารณะได้ เพียงแค่ "ยืนยันความต้องการด้านความปลอดภัยหรือความมั่นคง"


สหรัฐฯ ปิดม่านติดตามมลพิษ ออกพ.ร.บ. ใหม่ ไม่เปิดชื่อเจ้าเครื่องบินส่วนตัว

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บุคคลมีชื่อเสียงอย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ และ อีลอน มัสก์ แสดงความไม่พอใจต่อการที่ประชาชนสามารถติดตามการเดินทางของพวกเขาได้ ก่อนหน้านี้ เจ้าของเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวต้องลงทะเบียนข้อมูลกับ FAA ซึ่งทำให้ข้อมูลเหล่านี้เป็นสาธารณะ

 

นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและนักวิเคราะห์ได้ใช้ข้อมูลนี้เพื่อคำนวณผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการบินส่วนตัว ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 เทย์เลอร์ สวิฟต์ เดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ทเป็นระยะทาง 178,000 ไมล์ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 1,200 ตัน ซึ่งมากกว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยถึง 83 เท่า


สหรัฐฯ ปิดม่านติดตามมลพิษ ออกพ.ร.บ. ใหม่ ไม่เปิดชื่อเจ้าเครื่องบินส่วนตัว

แจ็ค สวีนีย์ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลฟลอริดา ได้สร้างบัญชีโซเชียลมีเดียที่ติดตามการใช้เครื่องบินเจ็ทของบุคคลสาธารณะและคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของพวกเขา ความพยายามของเขาได้รับความสนใจอย่างมาก จนทำให้ติดอันดับ 30 under 30 ของ Forbes ที่นำคนรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 30 ปีรอบโลก มาจัดอันดับด้วย

 

แม้ว่าการบินส่วนตัวจะคิดเป็นเพียง 4% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการบินทั่วโลก แต่นักบินที่ร่ำรวยที่สุดสร้างมลพิษประมาณ 90% ของส่วนนี้ การบินเพียง 4 ชั่วโมงบนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับที่พลเมืองยุโรปคนหนึ่งปล่อยตลอดทั้งปี

 

นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมแสดงความไม่พอใจต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยมองว่าความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการเรียกร้องให้ผู้มีอิทธิพลและคนรวยรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอน อย่างไรก็ตาม แจ็ค สวีนีย์ยืนยันว่ากฎใหม่นี้ไม่ได้ทำให้การติดตามเป็นไปไม่ได้ แต่กลับทำให้เขามีแรงผลักดันที่จะหาวิธีติดตามที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

 

สหรัฐฯ ปิดม่านติดตามมลพิษ ออกพ.ร.บ. ใหม่ ไม่เปิดชื่อเจ้าเครื่องบินส่วนตัว

 

ในขณะที่กฎใหม่นี้อาจเป็นชัยชนะสำหรับความเป็นส่วนตัวของนักเดินทางที่ร่ำรวย ทำให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างสิทธิส่วนบุคคลและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นวิกฤตระดับโลก การปิดบังข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอาจส่งผลเสียต่อความพยายามในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

 

อ้างอิง: