เบื้องหลังภาพยนตร์และโทรทัศน์: ความบันเทิงที่แฝงผลกระทบโลกร้อน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์หมื่นล้านปล่อยคาร์บอนมหาศาล กำลังเผชิญความท้าทายในการปรับตัวสู่การผลิตที่ยั่งยืน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ เป็นความบันเทิงที่หลายคนชื่นชอบและได้รับความนิยมทั่วโลก สร้างรายได้มหาศาลกว่า 35,000 ล้านบาท แต่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ซ่อนปัญหาสิ่งแวดล้อมที่น่าตกใจ โดยตลอดกระบวนการผลิตภาพยนตร์ได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนออกมาในปริมาณมหาศาล
ทุกปีวงการบันเทิงทั่วโลกปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 15 ล้านตัน โดยกองถ่ายขนาดเล็กปล่อยคาร์บอน 391 ตัน ส่วนภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ปล่อยถึง 3,370 ตัน เทียบเท่ากับการปล่อยคาร์บอนของบ้าน 656 หลังในหนึ่งปี
แหล่งปล่อยคาร์บอนหลักมาจากเชื้อเพลิง (48%) การเดินทางทางอากาศ (24%) สาธารณูปโภคในกองถ่าย (22%) และที่พักอาศัย (6%) สมาคมโปรดิวเซอร์แห่งอเมริกาเตือนว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อการถ่ายทำ ทั้งสุขภาพ ความปลอดภัยของทีมงาน และสถานที่ถ่ายทำ
ในปี 2010 บริษัทภาพยนตร์อเมริกันได้ก่อตั้ง สมาพันธ์กองถ่ายเพื่อความยั่งยืน (SPA) เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในวงการ โดยมุ่งเน้นการลดการใช้พลังงาน พลาสติก และเชื้อเพลิงฟอสซิล พร้อมส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างความพยายามลดผลกระทบต่อโลกจะเห็นได้จากภาพยนตร์แอนิเมชัน "The Peasants" (2023) ที่ใช้กระดาษแข็งแทนไม้ในการสร้างฉาก ซึ่งเป็นวัสดุที่เบากว่า ใช้ทรัพยากรน้อยกว่า และรีไซเคิลได้ง่ายกว่า และ "The Amazing Spider-man 2" (2014) ที่สามารถลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกได้ถึง 193,000 ขวด และลดขยะฝังกลบ 52% ส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำได้ถึง 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สาเหตุใหญ่ที่สุดของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกองถ่ายคือ เชื้อเพลิงสำหรับการขนส่งและไฟฟ้า โดยประมาณ 30% ของเชื้อเพลิงถูกใช้ไปกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่ ส่วนที่เหลือใช้ในการขนส่ง
การแก้ปัญหานี้ต้องอาศัยการคำนวณขนาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เหมาะสม การใช้ยานพาหนะไฟฟ้า และการเลือกใช้พลังงานสะอาดแทนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเมื่อเป็นไปได้ ความท้าทายนี้กำลังผลักดันให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความบันเทิงและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
อ้างอิง:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง