DITTO รุกธุรกิจ Climate Tech แก้ปัญหาโลกร้อน เดินหน้า Sustainability เต็มตัว

นายชัยทัด กุลโชควณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก ปัจจุบัน Sustainability หรือ “ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน” มีอิทธิพลในแวดวงธุรกิจมากขึ้น องค์กรต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยให้ความสนใจในดัชนีชี้วัดความยั่งยืน (Sustainability Index) เพื่อเป็นดัชนีชี้วัดว่าบริษัทมีการดำเนินการธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวคิด ESG (Environmental, Social และ Governance) หรือไม่ 

โดยนโยบายด้านความยั่งยืน DITTO เล็งเห็นความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด เริ่มต้นจากการดำเนินธุรกิจให้เช่าเครื่องถ่ายเอกสาร เป็นเครื่องมือสองนำเข้าจากต่างประเทศ นำมา ซ่อมแซมปรับปรุงสภาพใหม่ให้พร้อมใช้งาน เป็นการช่วยลดขยะอิเลคทรอนิกส์อีกทางหนึ่ง อีกหนึ่งธุรกิจหลักของ DITTO คือ ธุรกิจให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลในรูปแบบดิจิทัลอย่างครบวงจร (Document and Data Management Solutions) เป็นการเก็บเอกสารสู่ระบบดิจิทัล เพื่อใช้ทรัพยากรกระดาษให้น้อยที่สุด

มีข้อมูลว่า แต่ละปีคนไทยใช้กระดาษเฉลี่ยปีละ 3.9 ล้านตัน หรือ คนละประมาณ 60 กิโลกรัม/ปี ต้องตัดต้นไม้ถึง 66.3 ล้านตัน/ปี หรือทุกๆนาทีจะต้องตัดต้นไม้จำนวนกว่า 130 ต้น โดยก่อนหน้านี้มีผลสำรวจพบว่าหลังจาก DITTO ให้บริการมากว่า 8 ปี สามารถลดการใช้กระดาษได้กว่า 800 ล้านแผ่น เท่ากับกระดาษ 1.6 ล้านรีม หรือประมาณ 4 พันตัน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ กว่า 10,600 ตัน นั่นเท่ากับว่า ช่วยลดการตัดต้นไม้จำนวนมหาศาล 

ขณะที่กลุ่มวิศวกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรมมีหลากหลายธุรกิจ แต่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม คือ ธุรกิจการจัดการขยะเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิง (RDF) ซึ่งสามารถนำไปเคลม Carbon Credit ได้ นอกจากนี้ ล่าสุด DITTO ได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ Climate Tech ในโครงการปลูกป่าและรักษาป่าเพื่อประโยชน์คาร์บอนเครดิต โดยได้รับสิทธิ์ในการปลูกและดูแลป่า รักษาป่า ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้

กล่าวได้ว่า ธุรกิจหลักๆของบริษัท DITTO ล้วนเป็นธุรกิจที่สร้างความยั่งยืนช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และโลกร้อนให้กับโลกใบนี้

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินนโยบายประสบผลสำเร็จและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  บริษัท DITTO จึงจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “CORPORATE SUSTAINABILITY AND ASSESSMENT WORKSHOP”โดยมีคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหารจนถึงระดับผู้จัดการทั้งในส่วนของ DITTO , SIAM TC , NETBAY และ TEAMG เข้าร่วมสัมมนาอย่างพร้อมเพรียง

ประกอบกับจากการที่ในปัจจุบันทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ SET ให้ความสำคัญ ESG อย่างมาก โดยเฉพาะในการเปิดเผยข้อมูลความโปร่งใส รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯมีกองทุน Thai ESG เจาะจงลงทุนในบริษัทที่ได้ ESG เป็นพิเศษ ขณะเดียวกัน DITTO ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Climate Tech จึงอยากให้เข้ามามีส่วนในด้าน ESG เพื่อให้กองทุนนี้เข้ามาลงทุน โดยทาง DITTO ได้ยื่นเอกสารในการพิจารณา SET ESG Ratings ไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

“ในส่วน ESG เราสามารถทำตามเกณฑ์ได้เกือบครบทุกข้อ แต่สิ่งที่เราต้องการทำคือทำให้เกิดความยั่งยืนจริงๆ จึงทำเรื่อง Sustainability ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เพื่อทำให้เกิดความโปร่งใส ทางบริษัทได้ตั้งคณะกรรมการด้านนี้ขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะเพื่อให้ผลยั่งยืนจริงๆ”นายชัยทัด กล่าว